นิทานเรื่องจริง เรื่อง "ตะวันตกดิน"
ตอน 1
ความกร่าง กับ ชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นของคู่กัน และเป็นที่ขึ้นชื่อมานานเต็มที่ ถึงขนาดออกปากเองว่า ดวงตะวันจะไม่มีวันตกดินที่จักรภพอังกฤษ เพราะจักรภพอังกฤษนั้น กว้างใหญ่เหลือประมาณ พอใกล้ 6 โมงเย็น ดวงตะวันกำลังจะตกดินตรงส่วนไหนของจักรภพอังกฤษ ก็จะเห็นดวงตะวันกำลังโผล่ขึ้น ในอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นอาณานิคมของจักรภพอังกฤษ ทำเอาดวงตะวันหาที่ตกในจักรภพอังกฤษ ไม่ได้ ...
...โฮ๊ย ขี้โม้ ขี้คุยจริงๆ ....ไอ้กร่างเอ๊ย
สมัยที่ผมเป็นเด็ก ต้องเรียนประวัติศาสตร์สากล ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษา ที่เขียนถึงความใหญ่กร่างของอังกฤษทำนองนี้ ผมงงและ ไม่เข้าใจความหมาย ผมถามครู ....ครูคับ ตกลงที่อังกฤษมันมีดวงอาทิตย์หลายดวงหรือคับ ...ก็ได้คำตอบว่า... นี่ เธอ จะมายวนชั้นเหรอยะ แล้วก็ถูกครูค้อน โชคดีที่ไม่โดนเรียกไปยืนคาบไม้บันทัดหน้าชั้น (อย่างเคย) แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ ที่ทำให้เข้าใจถึงความกร่าง ของชาวเกาะใหญ่ฯ
พอโตขึ้น เห็นโลกกว้างขึ้น ผมพยายามทำความเข้าใจ กับความกร่าง และความเป็นชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายของอังกฤษ ...แหม ก็เกาะมันขนาดเท่านั้นเองนะ ทรัพยากรก็แทบจะไม่มีอะไร มันก็ต้องพยายาม "ใช้" หลายอย่าง ในการจะ " สร้าง" อาณาจักรของตนให้ใหญ่ขึ้นกว่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย และในหลายอย่างที่ใช้ มันเก่งที่สุดอยู่ 2 อย่าง คือ "การใช้ความช่างคิด" ที่ซับซ้อน เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม และอุบาย กับ "คำพูด" ที่มันช่างสรรแต่ง แสดงโวหารให้ผู้คนเคลิ้มตามได้อยู่เรื่อย
นักการเมืองอังกฤษส่วนใหญ่ และคนอังกฤษไม่น้อย จึงเจ้าเล่ห์ ทั้งแบบเปิดเผย และหลบใน รวมทั้งเจ้าคารม ส่วนนักการทูตอังกฤษ ก็ได้ชื่อว่ามีลิ้นยาว พริ้วไปมาได้อย่างเหลือเชื่อ และนักเรียนไทยที่ไปเรียนที่อังกฤษ จึงมักติดนิสัยเป็นนักพูด หรือแสดงโวหาร เจ้าคารม แบบชาวอังกฤษกันทั้งนั้น แต่ละคนช่างพูดให้เราอ้าปากค้างฟัง จนตกต้นไม้ได้เร็วและมากกว่าลิง (ผมว่าลิงมันเข็ดเร็วครับ แต่เราสิ... ไม่ค่อยเข็ด .และ ไม่ค่อยจำ)
แต่จริงๆแล้ว ดวงตะวัน ก็มีวันตกดินในจักรภพอังกฤษ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษไม่มีอาณานิคมเหลือให้ดวงตะวันเลือกที่ตกอีกแล้ว อาการกร่างต่างๆ กลายเป็นการหลอกและปลอบใจตัวเอง อย่างน่าสมเพช สิงห์โตขนร่วง หางตก และอาจเป็นขี้เรื้อนในที่สุด ตกลงอังกฤษไม่ได้มีดวงตะวันหลายดวง ฮา และโห่ ให้ตัวเองครับ
และตอนนี้ ชาวอังกฤษ โดยเฉพาะชาวลอนดอนอังกฤษแท้ ที่มีเหลืออยู่ไม่มากนักในกรุงลอนดอน ก็น่าจะตระหนักในใจของตนเองดี ว่าอังกฤษนั้นก็ มีดวงตะวันเพียงดวงเดียว เหมือนทุกประเทศในโลกมาตลอดเวลา และดวงตะวันนั้น กำลังจะตกให้เห็นๆ ทีลอนดอน เมืองหลวงของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ นั่นแหล่ะ.... กร่างร่วงจนเกลี้ยง
วันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ.2016 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึก มหานครลอนดอนอันยิ่งใหญ่ ได้นายกเล็ก ผู้ว่าการของมหานครลอนดอน เป็นชาวปากีสถานวัย 40 กว่า .... ชื่อ Sadiq Khan จากพรรคเลเบอร์
เขาเป็นชาวปากีสถานคนแรก ที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ และน่าจะเป็นชาวต่างชาติคนแรกด้วย และมาจากอดีตอาณานิคมของอังกฤษอีกด้วย มันสะใจ(ผม) จริงๆ
ตกลงที่อังกฤษมีดวงตะวันดวงเดียวครับ และกำลังจะตกที่เมืองหลวงของอังกฤษ มหานคร
ลอนดอน...แห่งเดียว....ฮา และโห่ คราวนี้ ให้ไอ้กร่างเก่า
ปู่ย่าของคุณข่าน อพยพมาอยู่ลอนดอน ประมาณปี ค.ศ.1947 หนีการตีกันระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ที่อังกฤษวางสนุ๊กไว้ให้ จะให้เอกราชเขาดีๆ เดี๋ยวเขาจะสบายไปหน่อย ต้องให้มันตี ให้มันแตกคอกันอย่างนี้แหละ มันจะได้ไม่รวมกันเป็นใหญ่(กว่าอังกฤษ) ส่วนพ่อแม่คุณข่าน ตามมาที่หลัง ก่อนคุณข่านจะเกิดนิดหน่อย
พ่อคุณข่านมาอยู่ลอนดอน ก็ยึดอาชีพขับรถเมล์อยู่ 25 ปีเพื่อเลี้ยงลูก 8 คน ส่วนแม่ก็รับจ้างเย็บผ้า แต่คุณข่านเป็นเด็กอดทน รักดี รับจ้างทำงานสาระพัดช่วยพ่อแม่ และเรียนหนังสือไปด้วย ตอนแรกตั้งใจจะเรียนด้านคณิต เพื่อจะไปเรียนต่อเป็นหมอฟัน แต่ครูบอกว่า เธอช่างซักแบบนี้ ไปทำฟัน คนไข้คงอ้าปากจนขากรรไกรค้าง เพราะเธอมัวแต่ถาม แทนที่จะรีบทำฟันเขา ไปเรียนกฏหมายเป็นทนายดีกว่าน่า คุณข่านว่าง่าย ก็เลยเบนเข็มไปเรียนกฏหมายที่มหาวิทยาลัย Northern London
เรียนจบ ก็ไปเป็นทนายอยู่แถว Wandsworth ถิ่นที่คนต่างชาติในลอนดอนอยู่กันแออัด คุณข่านสนใจการเมืองตั้งแต่อายุ 20 อ่อนๆ เลยเข้าไปป้วนเปี้ยนอยูแถวพรรคกรรมกร ( Labour Party) ปี
ค.ศ.2003 สส.เก่า ประจำเขต Tooting ที่เหมาเขตนี้มานาน เปลี่ยนใจไม่ลงสมัครต่อ เพราะวัยสูงจนเดินจะไม่ไหวแล้ว คุณข่านเลยเสนอตัว ลงแข่งกับตัวแทนคนอื่นในพรรค และในที่สุดก็ได้เป็น สส. เข้าสภาอันทรงเกียรติของอังกฤษ ในปี ค.ศ.2005
ปี ค.ศ.2010 ก็ได้รับเลือกเป็น สส.ของ Tooting เข้าสภาไปอีก คราวนี้รัศมีเริ่มออก Ed Miliband ที่กำลังจะลงแข่งเป็นหัวหน้าพรรคกรรมกร เลยคว้าตัวเอาคุณข่านมาเป็นหัวหน้าคณะหาเสียง ชื่อคุณข่านก็เลยขึ้นเป็นอันดับที่ 16 ของผู้ที่มีอิทธิพลทางการเมืองฝ่ายซ้ายของอังกฤษ จากการจัดอันดับของ The Daily Telegraph
คุณข่านเคยได้เป็นรัฐมนตรีชุมชนในปี ค.ศ.2008 เมื่อ Gordon Brown นายกรัฐมนตรี จากพรรคกรรมกรขณะนั้นปรับ ครม. และต่อมา ในปี ค.ศ.2009 คุณข่านก็ได้รับเลือกเข้าอยู่ใน ครม. ได้เป็นรัฐมนตรีคมนาคมอย่างภาคภูมิ ... คุณข่าน น่าจะไปขอบคุณ ครูที่ท้วงว่าอย่าไปเรียนเป็นหมอฟันเลยนะ
กลางปี ค.ศ.2015 คุณข่านประกาศว่า สนใจจะเป็นตัวแทนของพรรคกรรมกร ในการเลือกตั้งผู้ว่าการมหานครลอนดอน คุณข่านมาแรงจริง ชนะคู่แข่งในพรรคเดียวกันเกลี้ยง
คุณข่านบอกว่า ถ้าเป็นผู้ว่าเมื่อไหร่ ราคาตั๋วรถเมล์ รถใต้ดินจะไม่มีการขึ้นไป 4 ปี ค่ารถใต้ดินอังกฤษแพงน่าดู สำหรับคนทำงานที่ต้องอาศัยขนส่งของรัฐ เพราะยังไม่มี โรลส์รอย หรือจาร์กัวนั่งไปทำงานทุกวัน
แต่คู่แข่งของคุณข่าน Zac Goldsmith ที่พรรคขุนนาง Conservative Party ส่งเข้าไปสู้ นี่สิ คุณข่านเอาชนะเขาได้ยังไงนะ เพราะ คุณ Zac นี่แสนจะไม่ธรรมดา
ตอน 2
Zac Goldsmith ละอ่อนหนุ่ม เป็นลูกมหาเศรษฐีโคตรรวย ประเภทที่อยู่ในระดับครีมชั้นบนสุดของขนมเค็กในสังคมชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ
Goldsmith เป็นตระกูลมหาเศรษฐียิวฝรั่งเศส ที่อพยพมาจากฝรั่งเศส หนีคุณพี่ฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาค้าขายต่อในอังกฤษ จนรวยมากใหญ่มาก James พ่อของZac เลยได้รับยศเป็นท่านเซ่อ และเป็นสมาชิกสภา สังกัดพรรคอนุรักษ์นิยม ส่วนแม่ก็เป็นผู้ดีเก่า ขนาดจับแขนจับตัวกับพวกราชวงศ์ชั้นสูงได้อย่างสบายไม่ต้องเกร็งตัวจนปวดท้อง
ปู่ของ Zac คือ Frank Goldschmidts เป็นเพื่อนบ้าน และเป็นคู่แข่งกับพวก Rothshilds มาตั้งแต่สมัยที่อยู่แฟรงค์เฟิร์ตโน่น แต่ชื่อ Goldschmidts มันออกกลิ่นยิวชัดไปหน่อย พอย้ายมาอยู่ลอนดอน คุณพ่อ Frank เลยตัดแต่งเหลือเป็น Goldsmith
อย่างนี้เรียกว่า Zac ไม่ธรรมดาใช่ไหม ถ้าฝั่งตัวเองยังไม่ธรรมดาพอ เอาฝั่งพ่อตามาช่วยด้วยก็ได้ เพราะบังเอิญเมียของ Zac เป็นลูกสาวของ Amschel James Rothschild ซึ่งเป็นลูกพ่อเดียวกับหลอด Jacob Rothshild คนนั้นแหล่ะ
ส่วนพี่สาวของ Zac ชื่อ Jamima ก็เป็นเพื่อนรักกับเจ้าหญิงไดอานา ที่ล่วงลับไปแล้ว คุณเจ๊ไฮโซ นี่ เปรี้ยวจัด เป็นอดีตเมียของ อิมราน ข่าน อดีตแชมป์คริกเก็ตเพลย์บอย ที่พลิกตัวกลายเป็นนักการเมืองเสียงดังของปากีสถาน ที่กำลังพยายามเลื่อนชั้นตัวเองสูงขึ้นทุกวัน เพราะตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็น
ประธานาธิบดีปากีสถานให้ได้ ส่วนพี่ชายอีกคนของ Zac หนุ่มเบน ก็เป็นลูกเขยของ Rothschild อีกคน แต่หย่ากันไปแล้ว (คือพี่ได้พี่ น้องได้น้องน่ะครับ) หนุ่มบ้านนี้ถ้าจะมีอะไรดี ถึงถูก Rothschild เหมา ....สงสัย คงคุ้นกับกลิ่นยิวแฟรงค์เฟิร์ตด้วยกัน
อ้าว... แล้วอังกฤษแท้หายหัวไปไหนหมด ...สงสัย มาหลบหนาวอยู่แถวไทยแลนด์
แดนช้างศึก .... วีซ่าต่อง่าย ไม่มีเงื่อนไขเงินฝาก หรือเงินประกัน อาหารถูก บ้านราคาไม่แพง ผู้หญิงไทยทำได้ทุกอย่าง ....เป็นโฆษณาเต็มอยู่ตามหน้าจอของโลกโซเชียลมีเดียครับ
ตอน 3
การแข่งขันชิงตำแหน่งผู้ว่าการมหานครลอนดอนครั้งนี้ ท้าทายคนอังกฤษหลายมุม และน่าสนใจสำหรับคนนอกอย่างผม ที่ชอบเชียร์มวยรอง กับเรื่องที่อยู่นอกกระป๋องสีฟอกย้อม
มันเป็นแข่งขัน ระหว่าง คนนอก กับ คนนอก ที่จะเป็นผู้ดูแลคนใน
มันเป็นการแข่งขัน ระหว่าง ลูกแขก จากอดีตอาณานิคม ที่มีชื่อว่าเป็นชุมทางคน(เล่น)แรง กับ ลูกยิวโคตรรวย ที่เป็นตัวแทนของสังคมชั้นสูงของอังกฤษ
มันเป็นการแข่งขัน ระหว่าง ลูกคนขับรถเมล์ กับ ลูกมหาเศรษฐี ที่เกิดมามีช้อนทองเต็มปาก และคงไม่เคยขึ้นรถเมล์... ไม่รู้ว่ามหานครลอนดอนของทั้ง 2 คน เหมือนกันไหม
ถ้ามองในมุมนี้ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ นี่โคตรใจถึงเลย ใจกว้าง อย่างกับปากแม่น้ำประชาธิปไตย ไม่แพ้พี่เบิ้ม ที่เอาลูกครึ่งผิวสีมาปกครองประเทศเลยนะ
แต่ถ้ามองอีกมุม ... ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ของผม ก็เหมือนบ้อท่าแล้ว ขนาดยอมเอายิว หรือ เอาแขกมาดูแลเมืองหลวง ดูแลพระราชวัง ดูแลรัฐสภา ดูแลชุมทางการเงิน ชุมทางคมนาคม และชุมทางท่องเที่ยว ฯลฯ ใหญ่ๆ ทั้งนั้น เกิดตูมตามขึ้นมาแบบหนังฮอลลีวู้ด แขกหรือยิว จะรับมือไหวหรือครับ.. อังกฤษ มันต้องบ้อท่าจริงๆ หรือมันคิดลึก....
แต่ถ้าลองนึกถึงสันดานชาวเกาะใหญ่ ที่แสนจะเจ้าเล่ห์ และสุดกร่างมานานเป็นร้อยๆปี ให้ดีๆ ขนาดลงทุนเอาพระราชินี และลูกหลานพระราชวงศ์ ไปเข้าฉากกลบกลิ่น หรือกลบเกลื่อน ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ยังทำได้...
อังกฤษย่อมไม่เคยคิดอะไรชั้นเดียว พวกโลกสวยช่วยจำไว้หน่อยนะครับ เมืองหลวงใหญ่ๆ เป็นเป้าหมายที่ยั่วยวนอย่างยิ่งของผู้ก่อการร้าย จะก่อการตัวจริง ก่อการแบบเติมเงิน ก่อการแบบแตกหน่อ หน่อเลี้ยง ก็ยากที่จะแยกแยะ เอาว่าลอนดอนก็น่าจะอยู่ในข่ายเป็นดาวยั่วก็แล้วกัน ปารีสโดนไปแล้ว เบลเยี่ยมโดนไปแล้ว ต่อไปก็ลุ้นเสียวให้ ลอนดอน เบอร์ลิน มิวนิค โรม แบ่งๆกันไป ...ก็มันเป็นเวลาเช็คชื่อ
อังกฤษ ถังแตกมานาน จะเอางบที่ไหนมาใช้ระวังการก่อการร้ายได้เต็มที่ ทางหนึ่ง ที่ไม่ต้องควักกระเป๋ามาก แถมได้หน้า ว่าใจกว้าง ใจถึง คือ.... พวกมึงต้องช่วยกันดูแลด้วย มาอาศัยกินอาศัยอยู่กันนานแล้วนะโว้ย
มึงไหนล่ะ มีทั้ง มึงยิว มึงแขก
เอา มึง ยิวรวยๆก่อน เครือข่ายยิวมีทั่วโลก ใครจะสู้กับผู้ก่อการร้ายได้ดีเท่ากับอิสราเอล อิสราเอล ที่ใหญ่ไม่เกินเม็ดหูดของเท้าขวา มีใครกล้าไปแหยมกับอิสราเอลบ้าง แหะ..แหะ. มีครับ แต่ ไม่ใช่พวกนักรบเติมเงินก็แล้วกัน... นักรบเติมเงินถือคติ ไม่ระเบิดตู้เอทีเอ็ม และ ไม่ฆ่าห่านทองคำ (ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ)
มีข่าว "ลือ" ว่า เจ้าพ่อใหญ่แห่งทะเลทรายน่ะ ไม่เบานะ ด้านหนึ่ง อ้อนให้คู่รักขนกองทัพมาดูแลบ้านให้ ....อีกด้าน...เขาว่า ใช้หน่วยมอสสาดของอิสราเอล เป็นครูฝึกให้กับนักรบ ที่กดตู้เอทีเอ็มของเจ้าพ่อ แบบนี้เอายิวมาดูแล ลอนดอนก็น่าจะโล่งใจไปหลายส่วน MI6 (หน่วยงานแบบซีไอเอของอังกฤษ) ที่ซี้จัดกับอิสราเอล ก็ย่อมไม่ขัดขวาง ทำงานเข้าขากันดี
อ้าว... แล้วทำไม ปล่อยให้แขกปากี ชนะขาดอย่างนั้น 57 ต่อ 43 เชียวนะ
มาถึง มึง แขกแล้วครับ
เฮ้ยเขาเลือกตั้งนะโว้ย ไม่ใช้หวยล๊อก แบบบ้านเรา แหม... อย่าคิดแบบโลกสวยน่า
ข่าวบอกว่า คุณข่านนั้น เป็นทนายประเภทสิทธิมนุษยชนด้วย ก็มีความคุ้นเคยกับคนหลายพวก รวมทั้งพวกอิสลามหัวรุนแรง เรียกว่าพูดกันรู้เรื่องน่ะ แน่ะ มาแล้วไง เป็นไงครับ... คุณข่านถึงไม่รวย แต่ก็ไม่ธรรมดานะ.... ให้พวกที่เขาคุยกันรู้เรื่อง คุยกัน ดีกว่าส่งประเภทไอ้กร่างปากจีบไปเจรจากระมังนะ
เมื่อรู้ผลการแข่งขัน คุณข่านขอบคุณชาวลอนดอน ที่ให้ความไว้วางใจเขา และบอกว่า...ภูมิใจ ที่ชาวลอนดอน.... มองไปที่ความหวัง ไม่ใช่ความกลัว ... chosen hope over fear......
ตอน 4 (จบ)
ในวาระครบรอบ 5 ปี ของการเก็บ บิน ลาเดน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี้เอง อเมริกาตีข่าวใหญ่ ท่านใบตองเปิดห้อง war room ให้นักข่าวซีเอนเอน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ตัวจริงของอเมริกา เข้าชมและให้ สัมภาษณ์พิเศษ ว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น อื้อ....พูดพิลึก
สื่อหลายสำนัก รวมทั้งสื่อของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ พากันขยายต่อ และส่วนใหญ่ ก็ขยายซ้ำอยู่ประเด็นเดียว ....
....ฝ่ายเราเป็นคนสืบรู้ว่า บินลาเดน กบดานอยู่ปากีสถานใช่ไหม แล้วทำไมทางเจ้าของท้องที่ (คือปากีสถาน) เขาไม่บอกเราเลยล่ะ ก็รู้อยู่ว่า เรากำลังตามหาตัวบินลาเดนมาลงโทษไม่ใช่หรือ....
....เขาต้องรู้ใช่ไหม ว่าบินลาเดนอยู่ในท้องที่เขา ก็กบดานอยู่เป็นปีๆ ....เขาน่าจะรู้ และ เขา เป็น " เพื่อน" กับเราไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเขาไม่บอกเรา...
พักหลัง อเมริกาเหมือนจะเปลี่ยนใจ จากที่เคยเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกับปากีสถานมานานเป็นหลายสิบปี เคยงุบงิบทำ "อะไร" ด้วยกันมาหลายเรื่อง
เรื่องของอเมริกา รัสเซีย จีน อินเดีย ปากีสถาน เป็นเหมือนวังน้ำวน
ขณะเดียวกับที่ปากีสถานไม่รักกับอืนเดีย และอินเดียก็ไม่รักกับจีน เนื่องมาจากเรื่องธิเบต แต่จีนนับปากีสถานเป็นเพื่อน และ รัสเซียกับอินเดียก็นับเป็นเพื่อนกัน และจีนกับรัสเซียก็เป็นเพื่อนรักกัน แต่อเมริกา ที่เคยรักกับปากีสถาน ทำท่าจะเปลี่ยนใจมารักอินเดีย
เพราะตอนหลัง ปากีสถานดูเหมือนมาซี้กับจีนไม่น้อยกว่าอเมริกา ป่านนี้อาจจะมากกว่าแล้วก็ได้ แล้วอย่างนี้ อินเดียจะเปลี่ยนใจมารักกับอเมริกา และเลิกรักรัสเซียไหม..
มันเป็นวังวนของการเมืองโลก ที่เราต้องทำความเข้าใจที่ละชิ้น ทีละคู่ ทั้งแยกดู และเอามาเรียงดูความต่อเนื่อง
สักพักใหญ่มาแล้ว ที่ดูเหมือนนโยบายของอเมริกาเริ่มเปลี่ยน จากเคยอบอุ่นกับปากีสถาน เริ่มจะทดลองดื่มชาเย็นด้วยกัน ท่านใบตองหันไปชื่นชมอินเดียแทน ว่าเป็นคนพูดรู้เรื่อง และน่าเชื่อถือ ดูจากข่าวซีเอนเอน คงเห็นชัดว่า พักหลังนี่ มีแต่มุมน่าสนใจของอินเดีย มีแต่ข่าวเส็งเคร็งของปากีสถาน
เรื่องเซ็งเคร็งในโลกมีอีกแยะ แต่ซีเอนเอน ตอนนี้เหมาประจำอยู่ไม่กี่เจ้า มีเรื่องรัสเซียของคุณพีปูติน กับเรื่องน้องคิมของผม นี่เป็นเจ้าประจำขาดไม่ได้เลย เอะ นี่ ก๊วนมิตรรักนักเพลงของผมทั้งนั้นเลยนะ
ตอนนี้เขาเพิ่มปากีสถานเข้ามาอีก 1 เดี๋ยวต้องจัดงานต้อนรับเข้าก๊วนเสียหน่อย อ้าว.... แล้วอาเฮียหายไปไหนล่ะครับ
อเมริกาดูเหมือนกำลังเร่งมือ ทำป้ายลวงเพิ่ม ....
เมื่อ 2 วันก่อน Stephen Schwarzman ซีอีโอ ของหินดำ Blackstone Group ของท่านหินร่วง Rocky the Great ออกมาให้สัมภาษณ์กับ ซีเอนเอน (ซึ่งค่อนข้างแปลก เพราะเขาไม่ค่อยเป็นคนช่างโชว์ตัว ) ว่า คนจีนอยากมีชีวิตอย่างคนอเมริกัน และอัตราการบริโภคของจีนก็สูงขึ้นมาตลอด แม้แตต้นปีนี้ ที่ใครว่าไม่ดี แต่จีนยังดีอยู่ ต้องแยกระหว่างตลาดหุ้น กับตลาดบริโภคนะ จีน ยังเป็นตลาดที่ดีของอเมริกา.... ช่างพูดจังมึง
และนอกจากนี้ ท่านนายพลทหารที่ประจำกองบัญชาการที่อาฟกานิสถานบอกว่า เราไม่เห็นว่า สัมพันธ์อเมริกาจีนจะเป็นปัญหานะ....หมายความว่า ปัญหามีอยู่ เฉพาะกับรัสเซียเท่านั้นหรือครับท่านนายพล
ไม้เสี้ยมยี่ห้ออเมริกา น่าจะผลิตแทบไม่ทัน ใช้เปลืองเหลือเกิน
อเมริกา ทำทุกอย่างที่จะแยกจีนออกมาจากรัสเซีย แปลว่า อเมริกาน่าจะยังไม่พร้อม ที่จะรบกับ 2 ประเทศใหญ่พร้อมกัน ทางออกง่ายๆ ....คือ ทำให้เพื่อนรักเขาแตกกัน ระแวงกัน.... สงสัยอเมริกาจะเดินตามตำราเจ้าเล่ห์ ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ใช้วิธีเดียวกับที่อังกฤษทำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เปิดแนวรบกับเยอรมัน แต่สร้างปฏิวัติให้รัสเซีย
งั้นสงครามใหญ่คราวนี้ อเมริกาคิดจะถล่มใครก่อนล่ะ ระหว่างรัสเซียกับจีน แต่ก่อนจะถล่มใคร อเมริกาคงต้องดึงบาบู มาอยู่ข้างตัวเสียก่อนนะ เพราะครั้งนี้บาบูเป็นหมากสำคัญ จะเอาบาบูมา แต่ยังรักกับปากี บาบูจะมาหรือ งั้นก็ถีบปากีทิ้งไปก่อน....
... เฮ้ย ไอ้ปากจีบ มึงรับปากีไปเลี้ยงไว้ก่อนนะ เด็กมึงนี่หว่า ให้มันเป็นท่านเซ่อ ท่านหลอดแม หลอดกาแฟเลย ... อย่าให้ไอ้พวกตาตี่มันเอาไปกก เดี๋ยวกู่ไม่กลับ.....ไอ้ยิวเหรอ มึงก็ต้มมันต่อไปแล้วกัน.....มันนึกว่ามันแน่...มันไม่รู้หรอก ว่าเราก็หลอกใช้มันเหมือนกัน ฮา ....ลูกครึ่งยังสั่งได้อยู่
ขึ้นต้นเล่าถึงตะวันตกที่ลอนดอน ลงท้ายมาจบเรื่องไม้เสี้ยม ต้มตุ๋น มันก็เป็นอย่างนี้ละครับ การเมืองโลกเกือบทุกเรื่องมันเกี่ยวเนื่องพัวพันกันทั้งนั้น... อยู่ใต้ตะวันดวงเดียวกัน .... นึกว่า เรื่องผู้ว่าชาวปากีจะไม่เกี่ยวกันหรือยังไง....
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
9 พ.ค. 2559
หมายเหตุ : เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจาก google
ที่มาของข้อมูล
https://www.facebook.com/688258957869254/photos/a.712149392146877.1073741828.688258957869254/1283368261691651/?type=3