นิทานเรื่องจริง เรื่อง " ยุทธการฝูงผึ้ง "
ตอนที่ 1
International Crisis Group (ICG) ของนาย George Soros และพวก เช่น นาย Kenneth Adelman นัก lobby ใหญ่ ของไอ้โจรร้ายที่เขียนไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค พ.ศ. 2557 นั้น เป็นองค์กรที่น่าสนใจไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่ตอนนี้ถ้าเป็นเพลง ก็เรียกว่าขึ้นอยู่ในระดับ top chart เพราะเป็นองค์กร ที่ดูเหมือนจะมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมของหลายประเทศ ในหลายภูมิภาค พูดภาษาจิกโก๋เรียกว่า เป็นผู้จัดการฝ่าย Research and Development R& D วิเคราะห์และวางแผนการล่าเหยื่อ ให้แก่กลุ่มทุนอิทธิพลนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) และไทยแลนด์แดนสมันน้อย ก็น่าสงสัยว่าจะอยู่ในรายการ shopping list เหยื่ออันโอชะ (อีกแล้ว !)
ตั้งแต่ไอ้โจรร้าย ร่อนเร่ไปอยู่นอกประเทศ เพราะคุณทหารเอารถถังออกมาวิ่งรับดอกไม้จากชาวกรุงเทพ! เมื่อปี พ.ศ. 2549 นั้น บางทีมันก็ทำให้ชะตาบางคนพลิกผัน เหมือนกับการปล่อยหมูเข้าเล้า หรือปล่อยหมาไนไว้ในทุ่งหญ้า อะไรทำนองนั้น หมาไนเคยแต่แทะกระดูกตลอด กว่าจะได้กินเนื้อก็เหนื่อยจนเบ้าตา เป็นเบ้าขนมครก (ฮา !) พอเจอนักล่าเอาเหยื่อมีเนื้อติดกระดูกมาล่อ ด้วยความตะกระ อันเป็นสันดาน ก็รีบเดินเข้าไปสู่กรงเล็บนักล่าอย่างเต็มใจ ว่าแล้วก็ดันจ้างนักล่ามาเป็นที่ปรึกษา ให้ล่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอย่างสุดเลว ชั่วจริง ๆ !
เพื่อจะเข้าใจปัจจุบัน ขอทบทวนอดีตสักหน่อย ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 อเมริกามีทางเลือกในฐานะผู้มีอำนาจใหญ่ล้นโลก ที่จะทำให้โลกนี้ สู่สภาพการสิ้นสุดของสงครามเย็นอย่างจริงจัง และเปลี่ยนวิถีของโลกเสียใหม่ ไปสู่สันติภาพและความรุ่งเรือง
อย่างแท้จริง หมดสงครามเย็น ยุติการเกลียดชัง การแก่งแย่งชิงดี การเหยียดทางเชื้อชาติและสู้รบระหว่างเผ่าพันธ์ การปิดกั้นเรื่องศาสนา ฯลฯ เปลี่ยนจากการทำลายล้าง ต่อสู้ เป็นการสร้างความเจริญแก่โลก และแก้ไขปัญหาความลำบากยากจนของพลเมืองโลกอย่างแท้จริง สมกับการเป็น
พี่เบิ้ม
เปล่าหรอก นั้นมันเป็นความน่าจะเป็น หรือความอยากให้เป็นของชาวโลก ที่จะได้เห็นอเมริกา เดินสู่เส้นทางนั้น ในทางตรงกันข้าม นอกจากอเมริกาจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ภายใต้ประกาสิตของลัทธิ New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ ที่นาย Bush ตัวพ่อ ออกมาประกาศ
เมื่อ ปี ค.ศ. 1990 ภายใต้การกำกับของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล CFR อเมริกากลับเลือกที่จะทำทุกอย่าง ไม่ว่าการเป็นการสร้าง ทำลาย หลอก ลวง ต้มตุ๋น เพื่อที่จะควบคุมและครอบครองโลก
ปี ค.ศ. 1997 นาย Zbigniew Brzezinski ปรมาจารย์ทางด้าน Geopolitics ที่มีอิทธิพลในทางความคิดกับกลุ่ม CFR อย่างยิ่ง ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Grand Chess Board ว่าอเมริกาจะครองโลกได้ ต้องควบคุมดินแดนที่เรียกว่า Eurasia ให้ได้เสียก่อน ดินแดนยูเรเซียคืออะไร คร่าว ๆ คือ ทวีปยุโรปกับทวีปเอเซียรวมกัน เป็นดินแดนที่มีเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่โลก มีประชากรประมาณเกือบห้าพันล้านคน หรือประมาณกว่า 70% ของพลเมืองโลก และมีก๊าซและน้ำมัน ประมาณ 3 ใน 4 ของโลก คิดดูแล้วกัน มันเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ รสโอชา น่ารับประทานขนาดไหนของกลุ่มนักล่า
เมื่อคิดจะล่ากันเป็นล่ำเป็นสันอีกรอบ ในฐานะพี่เบิ้มใหญ่ คุมซอยเดียวไม่พอ มันต้องคุมทั้งเมือง ว่าแล้ว สงครามรูปแบบใหม่ จึงกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ แต่เปลี่ยนเครื่องทรง แต่งหน้าใหม่ ตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดโดย Project of the New American Century หรือ PNAC ที่
ออกมาในปี ค.ศ. 1997 นั่นเอง ผู้อำนวยการสร้าง PNAC ไม่ใช่ใครอื่น CFR จัดส่งมาให้ทั้งแก๊ง แสดงนำโดย นาย Paul Wolfowitz, นาย R James Woolsey, นาย Donald Rumsfeld และนาย Robert Zoellick เป็นต้น เป้าหมายของ PNAC คือ เพื่อให้อเมริกาครองโลก (promote American global leadership) จะครองโลกได้ ก็ต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่ง อเมริกาเริ่มจัดรูปแบบกองทัพ ฐานทัพ และสร้างอาวุธใหม่ ๆ ขึ้น แค่นั้นยังดูไม่เอาจริงพอ ในปี ค.ศ. 2000 PNAC ออกรายงานมาอีกชื่อ Rebuilding Americas Defenses : Strategies, Forces and Resources for a New Century
เห็นหัวข้อรายงานก็พอจะเดาทิศทาง การเดินหมากของอเมริกาในศตวรรษใหม่ได้
ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดย PNAC ดังกล่าว เหยื่อที่ถูกเลือกให้ทดลองทฤษฎีใหม่ คือ Saddam Hussein สงครามอีรัคเกิดขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2011 ความเสียหายมีมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้มา ก้อนอิฐปาใส่มากกว่าดอกไม้ ยุทธศาสตร์ ตาม PNAC เน้นทางการทหาร
มากกว่าการฑูต เหยี่ยวขยับปีกมากไปหน่อย จึงมีความคิดที่จะเอานกพิราบมาใช้แทน แต่ขอโทษ เป็นนกพิราบที่ติดกรงเล็บเหยี่ยว แถมไม่ใช่เล็บธรรมดา ในเล็บยังใส่ยาพิษไว้อีก
ทฤษฎีนกพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าเราจะจำกันได้ เรื่องอิหร่าน ตั้งแต่อังกฤษจับมือกับอเมริกา ปลดนาย Mossadegh ในปี ค.ศ. 1953 โทษฐานที่รู้ทันไม่ยอมถูกฝรั่งต้มต่อ และในค.ศ. 1997 นกพิราบสายพันธ์เดิมก็ถูกนำมาใช้ในการปลดกลางอากาศ Shah โทษฐาน
เล่นผิดบท และเอา Ayatollah Khomeini มาปกครองอิหร่าน ท่านผู้อ่านนิทานมายากลยุทธ มาแล้ว โปรดอย่าลืม อิหร่าน Model ทั้ง 2 รายการ เป็น Model ที่น่าสนใจ และมีนัยลึกซึ้ง โปรดอ่านทบทวน และน่าจะศึกษาเพิ่มเติมด้วย เผื่อจะเข้าใจหัวคิดและจิตใจอันแสนร้าย ของนักล่ามากขึ้น วันไหนเขานึกจะเล่น Model อิหร่านกับสมันน้อย จะได้รู้ตัว และต่อต้าน หรือต่อสู้ถูกทาง
นกพิราบติดกรงเหยี่ยว ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการ ที่ CIA มักเรียก วิธีการอื่น ส่วนมากเป็นการปฏิบัติการ สำหรับการล้มล้าง ระบอบหรือรัฐบาล ผู้นำประเทศ ผู้บริหารประเทศ ที่อเมริกาเห็นว่าไม่เป็นมิตร หรือไม่เป็นประโยชน์ ไม่สมประโยชน์ หรือขัดใจ ขวางทางทำมาหากินหรือตรงข้ามกับแนวคิดของอเมริกา ปฏิบัติการนี้ก็จะถูกนำมาใช้ เพื่อเอาหมากตัวใหม่หรือไพ่ใบใหม่ มาเล่นแทน โดยไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพของอเมริกาให้เปลืองแรง เปลืองเงิน ก็แค่นั้น
แต่พอเป็นศตวรรษใหม่ New Century แล้ว จะใช้ CIA เล่นโดด ๆ มันก็เหมือนไม่มีงบมาเติมเงินนั้นแหละ (ฮา !) ก็ต้องสร้างงานกันหน่อย เมื่อเห็นว่าการยกทัพจับศึกอย่างที่ทำในอิรัค มันไม่เข้าท่า ถูกด่ามากกว่าถูกสรรเสริฐ เขาก็เปลี่ยนวิชามารใหม่ อย่างว่า การตั้งสถาบันต่าง ๆ จึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด (แหม ! กว่าจะโยงถึง ICG ต้องไปวิ่งอ้อมถึงสนามหลวง) สถาบันพวกนี้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพ แต่ปูทางไว้ เพื่อให้กองทัพเข้ามาได้ง่ายขึ้น
ตอนที่ 2
อย่าลืมเป้าหมายของนักล่า สำหรับศตวรรษใหม่ คือ Eurasia, ไทยแลนด์ของสมันน้อย แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่สถานที่ตั้งอยู่ในภูมิประเทศเหมาะเจาะ แถมยังมีทรัพยากรเหลืออื้อ โดยพวกสมันน้อยไม่มีปัญญา หรือไม่รู้จักดูแลเก็บไว้ให้ลูกหลานใช้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้นักล่าน้ำลายหก เวลาเอ่ยชื่อสมันน้อยหรือ มันน่าหม่ำออกยังงั้น อย่า อย่าเข้าใจผิดว่าพูดถึงนางสาวแสนโง่ คนนั้น คนละเรื่องกันครับ !
นักล่าได้พยายามหาทาง เจาะเข้ามาดินแดนของสมันน้อย หลังจากทอดทิ้งไปหลังสงครามเวียตนาม มาเข้าทาง เมื่อหมาไน เห็นผิดเป็นชอบ วิ่งเข้าไปซบกลุ่มนักล่า นึกว่าเขาจะช่วยให้ตนกลับเข้าสู่อำนาจ แน่นอนนักล่าโอบอุ้มไว้ เอาไว้ใช้เป็นหมาก เข้าสู่อาหารจานใหญ่กว่า ที่นักล่าจะกินโดยไม่มีหมาไนมาขอแบ่ง ขบวนการ มันซับซ้อน จดจำไว้ นักล่าไม่เคยคิด หรือวางแผนแบบจอแบนมิติเดียว และไม่เคยเล่นไพ่ใบเดียว หรือหมากตัวเดียว
นักล่าโอบอุ้มหมาไน ขบวนการโลกล้อมประเทศ หมาไนต้องการหรือ จัดให้ (โดยหมาไนต้องจ่ายเงินก้อนโต ฉลาดสมคำลือ) นึกว่าเพื่อประโยชน์โดด ๆ ของหมาไนหรือ คิดให้ดี ! เมื่อถึงเวลาอันควร ปฏิบัติการฝูงผึ้ง swarming ก็เกิดขึ้น
ปฏิบัติการฝูงผึ้งออกแบบมา เพื่อให้องค์กรดอกเห็ดทำงาน องค์กรพวกนี้ หน้าฉากเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร (NGO) แต่แท้จริงแล้ว องค์กรเหล่านี้เกือบทั้งหมด ถูกตั้งขึ้นและได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ทรงอิทธิพล CFR หรือบุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
เช่น George Soros หรือบรรดาบรรษัทข้ามชาติที่เป็นเครือข่ายของ CFR ทั้งสิ้น องค์กรดอกเห็ดที่มาเดินกันพล่านแถวบ้านเราที่ออกมาล่อ ให้ฝูงผึ้งปั่นป่วนเช่น !
- National Endowment for Democracy (NED)
- The International Republican Institute (IRI)
- National Democratic Institute (NDI)
- Gene Sharp Albert Einstein Institute (AEI)
- International Center on Nonviolent Conflict (ICNC)
- Freedom House
- International Crisis Group (ICG)
เป็นต้น
ทฤษฎีฝูงผึ้ง (swarming) เป็นทฤษฎีที่ Rand Corporation ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นมันสมอง (Think Tank) ของฝ่ายกองทัพอเมริกัน คิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2000 อันที่จริงทฤษฎีนี้ คิดขึ้นมาเพื่อวางรูปแบบการรบ การจัดตั้งกองกำลัง และวางแผนโจมตีหรือรับมือข้าศึก แต่ต่อมาได้มีการนำมาใช้ในด้านปฏิบัติการทางสังคม และโลกของ social media
swarming มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ Arab Spring ก่อตัวได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง เขาทำกันอย่างไร
เขาใช้วิธีการของทำงานของฝูงผึ้งเป็นรูปแบบ โดยการสร้างขบวนการนำทางความคิดขึ้นมาก่อน (หัวเชื้อ) หลังจากนั้นขบวนการทางสื่อจะช่วยโหม ประโคม แล้วความไม่สงบก็เกิดขึ้น
ขั้นตอนดูเหมือนง่าย ๆ แต่การจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ต้องใช้ศักยภาพและเวลา ในการสร้างกลุ่มคนให้ไปตามทิศทางที่ต้องการ ดังนั้นการนำแสดงคงไม่พ้น นักการเมือง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว และนักสื่อสารมวลชน
เมื่อการทำงานภายใต้ทฤษฏี ล่อฝูงผึ้ง ไปในทิศทางที่ต้องการแล้ว ขบวนการทำให้ ผึ้งแตกรัง ก็ตามมา องค์กร เช่น Gene Sharp Albert Einstein Institute, Open Society Foundation พวกนี้จะมีส่วนสำคัญในการทำให้ผึ้งแตกรัง
Gene Sharp เป็นผู้ที่น่าสนใจศึกษา เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Albert Einstein Institute เป็นผู้ชำนาญด้านภูมิศาสตร์การเมือง ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้รับรางวัลโนเบล ด้านสันติภาพ ถึง 3 ครั้ง (มาอีกแล้ว พวกรางวัลโนเบล !) เขาเขียนหนังสือเรื่อง วิธีก่อการปฏิวัติ How to start a Revolution หนังสือเล่มนี้ อ้างกันว่าเหมือนเป็นคัมภีร์ของการปฏิวัติรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ ในกลุ่มพวก Arab Spring จะพกติดตัวกันเลย ปี ค.ศ. 2011 มีคนเอาเรื่องของเขาไปทำหนังสารคดีชื่อ How to Start a Revolution เป็นหนังสารคดีที่ได้รางวัล เขาเล่าว่าเหตุการณ์ประท้วงของผู้ต้องการประชาธิปไตยในพม่า ก็เป็นการ ช่วยเหลือ ของกลุ่มเขา รวมทั้งเหตุการณ์ในประเทศไทย ธิเบต Latvia Lithonia Estonia Belarus และSerbia ก็ฝีมือพวกเขาทั้งนั้น นาย Gene Sharp จะเป็นผู้คิดแผน ส่วนผู้ปฏิบัติการมือขวาของเขา ชื่อนาย Peter Ackerman ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 2002 ได้ก่อตั้ง International Center for Non Violent Conflict (ICNC) และ ICNC นี้เอง เป็นผู้ให้การฝึกอบรมแก่ activist ชาวอียิปต์และตูนีเซีย
เขาเล่าในหนังสือ How to Start a Revolution ว่า พวกคุณ นึกหรือว่า Arab Spring มันจะเกิดขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนั้น มันได้มีการออกแบบ วางแผน และอบรมกันล่วงหน้า 2 ปี ก่อนหน้าเหตุการณ์แล้ว.. เกือบลืมบอกไป นาย Peter Ackerman นั้นเป็น CFR ครับ
ตอนที่ 3
กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans
จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 - 2009
จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !)
ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ
คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น
- การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ
- การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 - 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008)
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !)
แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ
(มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร
ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว !
ตอนที่ 4
สำหรับเหตุการณ์ขับไล่รัฐบาลโจรร้าย ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2556 ถึงปัจจุบัน ICG มีรายงานออกมา 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ออกมาประท้วงรัฐบาล ใส่ข้อมูลแนวเดียวกับสื่อหัวสี ข้อมูลฟอกย้อมจนขี้เกียจเขียนถึง แค่อ่านก็ออกอาการตึงมือขึ้นมาแล้ว แต่ ICG ยังไม่มีคำวิจารณ์หรือความเห็นเสนอ
- ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานระบุว่าวิกฤติทางการเมืองเข้มข้นขึ้น เมื่อฝ่ายประท้วงเรื่องไม่รับกม.นิรโทษกรรม เปลี่ยนเป็นเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และขู่ว่าจะล้มการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ และมีแผนจะยึดกรุงเทพฯ และขับไล่ระบอบทักษิณแบบขุดรากถอนโคน
และตั้งสภาประชาชน 400 คน นายสุเทพอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์แกนนำขู่ว่าจะ shut down กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014
ฝ่ายกองทัพไม่ปฏิเสธว่าจะไม่มีการปฏิวัติ แต่ ICG ยังคงไม่มีความเห็นเสนอ
- ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014 ใช้หัวข้อการรายงานว่า Conflict Alert รายงานว่า การประท้วงทำท่าจะก่อให้เกิดความรุนแรง และโอกาสที่จะมีการเจรจาอย่างสันติแทบจะไม่มีเลย และผู้ประท้วงมีแนวโน้ม จะสนับสนุนให้มีการรัฐประหารโดยกองทัพ การประท้วงัไม่ให้มีการเลือกตั้ง ทำให้เห็นชัดถึงทิศทางการเมืองของประเทศไทยว่า จะเป็นแบบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบ หรือเป็นการบริหารโดยสถาบันที่มีอำนาจอย่างเคย ๆ เช่น สถาบันกษัตริย์ และกองทัพ
รายงานส่วนอื่น ถ้าไม่บอกว่าเป็นรายงานของ ICG ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่า อ่านรายงานของสำนักนายกฯ (เอ้ะ ชักสงสัยใครมันเขียนให้ใครกันแน่ ! ?)
ที่น่าสนใจเป้าหมายของรายงาน ไม่ได้พุ่งไปที่ฝ่ายประท้วงรัฐบาลอย่างเดียว แต่พ่วงเอากองทัพเข้าไปด้วยว่า ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนเป็นการออกแบบให้เกิดการรัฐประหาร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่มี กองทัพได้ทำการรัฐประหารมาแล้ว 18 ครั้ง ตั้งแต่ ค.ศ. 1932 ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ และใช้กำลังอาวุธกับกลุ่มที่ออกมาแสดงความนิยมประชาธิปไตย เมื่อ ค.ศ. 1973, 1992 และ 2010 แต่ไม่เคยสักครั้งเดียว ที่จะออกมาแทรกแซงเพื่อช่วยรัฐบาลของทักษิณ!
ICG ตบท้ายรายงานว่า ไม่มีหนทางใดที่จะนำไปสู่ความสันติ ถ้าเส้นทางนั้นไม่เคารพเสียข้างมากของผู้ลงคะแนน พร้อมกับให้คำแนะนำว่า
- ประชาธิปัตย์ ควรจะกลับไปร่วมในขบวนการเลือกตั้ง
- กองทัพ ต้องพยายามดูแลเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ ตามวิถีประชาธิปไตย และสนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้ง ทั้ง 2
- ประเทศไทย จะต้องถึงจุดที่พิจารณาให้ชัดเจนว่า จะบริหารประเทศอย่างไร ซึ่งจำเป็นต้องมีการหารือในระดับชาติ ไม่ใช่เป็นความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเลือกตั้ง
(ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่าระหว่างรัฐบาลกับ ICG ใครมันสอนให้ใครพูดข้อความข้างต้นเพราะมันเหมือนกันจัง)
ICG ยังสำทับอีกว่า ถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงความรุนแรง การหารือกันในระดับชาติถึงทางออกจากข้อขัดแย้ง ก็พอมีให้เห็นอย่างจาง ๆ แต่ว่าสำหรับกรุงเทพ ทางเลือกอื่นไม่ได้มีมากนัก ! (เขียนแบบนี้มันมีความหมายพิลึกนะ)
ขณะนี้เขียนบทความนี้ ยังไม่รู้ว่า ICG จะทำงานได้ตามราคาคุยของนาย Evans แค่ไหน แต่อย่างน้อย พอมองเห็นว่า การทำงานของ ICG แผนก R&D ของนักล่า ได้ผลระดับหนึ่ง ในเรื่องต่อไปนี้
- รัฐบาลภายใต้การนำของโจรร้าย และน้องสาวแสนโง่ เดินตามคำแนะนำของแผนก R&D ของนักล่า อย่างเคร่งครัด แต่ผลสำเร็จเกิดแค่ไหน คงต้องดูกันต่อไป
- การพยายามให้โลกเข้าข้างฝ่ายที่ ICG กำลังสนับสนุนอยู่ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเลวร้าย ไม่เป็นประชาธิปไตย ฯลฯ ขนาดไหน ได้ผลสูงและทำให้โลกตำหนิติเตียน ตั้งข้อสังเกต กับฝ่ายที่ไม่ได้เป็นตัวเล่นของ ICG จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน งงงวย กับบทบาทและเป้าหมายของตนเองกันเป็นแถว ๆ ก็นับว่าได้ผลไม่น้อยทีเดียว
ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)
นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ
ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190
ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา
เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู
- นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ
การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี "การปฏิบัติการอื่น" เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด
- หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย)
- คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ
- นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู
- เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน
- แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว
ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขาอย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
25 มค 57
เรียนท่านผู้อ่านนิทาน
ผมได้เอาลิงค์ เกี่ยวกับองค์กรและข้อมูลต่างๆ ที่ผมใช้เป็นข้อมูลบางส่วน ในการ
เขียนนิทานเรื่อง " ยุทธการฝูงผึ้ง" มาลงไว้ เผื่อท่านผู้อ่านอยากจะอ่านเอง หรือค้นคว้าต่อ โดยเฉพาะ เกี่ยวกับข้อมูลของ International Crisis Group (ICG)
ซึ่งได้ยินว่ามีผู้นำไปอ้างอิง แต่อาจจะคนละความหมายกับที่ผมเขียนใน " ยุทธการฝูงผึ้ง" นะครับ เชิญท่านผู้อ่านวิเคราะห์ตามสดวกครับ
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
26 มค 57
International Crisis Group
http://www.sourcewatch.org/index…/International_Crisis_Group
The Role of a Global NGO
http://www.gevans.org/speeches/speech471.html
Thailand Conflict Alert
http://www.crisisgroup.org/…/2…/thailand-conflict-alert.aspx
Conflict Risk Alert: Thailand
http://www.crisisgroup.org/…/conflict-risk-alert-thailand.a…
The ICNC Role in the Arab Spring
http://www.ahmedbensaada.com/index.php…
How to Start a Revolution
http://www.telegraph.co.uk/…/Gene-Sharp-How-to-Start-a-Revo…
Gene Sharp
http://en.wikipedia.org/wiki/Gene_Sharp
ที่มาของข้อมูล นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น
ตอนที่ 1
International Crisis Group (ICG) ของนาย George Soros และพวก เช่น นาย Kenneth Adelman นัก lobby ใหญ่ ของไอ้โจรร้ายที่เขียนไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค พ.ศ. 2557 นั้น เป็นองค์กรที่น่าสนใจไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่ตอนนี้ถ้าเป็นเพลง ก็เรียกว่าขึ้นอยู่ในระดับ top chart เพราะเป็นองค์กร ที่ดูเหมือนจะมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมของหลายประเทศ ในหลายภูมิภาค พูดภาษาจิกโก๋เรียกว่า เป็นผู้จัดการฝ่าย Research and Development R& D วิเคราะห์และวางแผนการล่าเหยื่อ ให้แก่กลุ่มทุนอิทธิพลนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) และไทยแลนด์แดนสมันน้อย ก็น่าสงสัยว่าจะอยู่ในรายการ shopping list เหยื่ออันโอชะ (อีกแล้ว !)
ตั้งแต่ไอ้โจรร้าย ร่อนเร่ไปอยู่นอกประเทศ เพราะคุณทหารเอารถถังออกมาวิ่งรับดอกไม้จากชาวกรุงเทพ! เมื่อปี พ.ศ. 2549 นั้น บางทีมันก็ทำให้ชะตาบางคนพลิกผัน เหมือนกับการปล่อยหมูเข้าเล้า หรือปล่อยหมาไนไว้ในทุ่งหญ้า อะไรทำนองนั้น หมาไนเคยแต่แทะกระดูกตลอด กว่าจะได้กินเนื้อก็เหนื่อยจนเบ้าตา เป็นเบ้าขนมครก (ฮา !) พอเจอนักล่าเอาเหยื่อมีเนื้อติดกระดูกมาล่อ ด้วยความตะกระ อันเป็นสันดาน ก็รีบเดินเข้าไปสู่กรงเล็บนักล่าอย่างเต็มใจ ว่าแล้วก็ดันจ้างนักล่ามาเป็นที่ปรึกษา ให้ล่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอย่างสุดเลว ชั่วจริง ๆ !
เพื่อจะเข้าใจปัจจุบัน ขอทบทวนอดีตสักหน่อย ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 อเมริกามีทางเลือกในฐานะผู้มีอำนาจใหญ่ล้นโลก ที่จะทำให้โลกนี้ สู่สภาพการสิ้นสุดของสงครามเย็นอย่างจริงจัง และเปลี่ยนวิถีของโลกเสียใหม่ ไปสู่สันติภาพและความรุ่งเรือง
อย่างแท้จริง หมดสงครามเย็น ยุติการเกลียดชัง การแก่งแย่งชิงดี การเหยียดทางเชื้อชาติและสู้รบระหว่างเผ่าพันธ์ การปิดกั้นเรื่องศาสนา ฯลฯ เปลี่ยนจากการทำลายล้าง ต่อสู้ เป็นการสร้างความเจริญแก่โลก และแก้ไขปัญหาความลำบากยากจนของพลเมืองโลกอย่างแท้จริง สมกับการเป็น
พี่เบิ้ม
เปล่าหรอก นั้นมันเป็นความน่าจะเป็น หรือความอยากให้เป็นของชาวโลก ที่จะได้เห็นอเมริกา เดินสู่เส้นทางนั้น ในทางตรงกันข้าม นอกจากอเมริกาจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ภายใต้ประกาสิตของลัทธิ New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ ที่นาย Bush ตัวพ่อ ออกมาประกาศ
เมื่อ ปี ค.ศ. 1990 ภายใต้การกำกับของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล CFR อเมริกากลับเลือกที่จะทำทุกอย่าง ไม่ว่าการเป็นการสร้าง ทำลาย หลอก ลวง ต้มตุ๋น เพื่อที่จะควบคุมและครอบครองโลก
ปี ค.ศ. 1997 นาย Zbigniew Brzezinski ปรมาจารย์ทางด้าน Geopolitics ที่มีอิทธิพลในทางความคิดกับกลุ่ม CFR อย่างยิ่ง ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Grand Chess Board ว่าอเมริกาจะครองโลกได้ ต้องควบคุมดินแดนที่เรียกว่า Eurasia ให้ได้เสียก่อน ดินแดนยูเรเซียคืออะไร คร่าว ๆ คือ ทวีปยุโรปกับทวีปเอเซียรวมกัน เป็นดินแดนที่มีเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่โลก มีประชากรประมาณเกือบห้าพันล้านคน หรือประมาณกว่า 70% ของพลเมืองโลก และมีก๊าซและน้ำมัน ประมาณ 3 ใน 4 ของโลก คิดดูแล้วกัน มันเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ รสโอชา น่ารับประทานขนาดไหนของกลุ่มนักล่า
เมื่อคิดจะล่ากันเป็นล่ำเป็นสันอีกรอบ ในฐานะพี่เบิ้มใหญ่ คุมซอยเดียวไม่พอ มันต้องคุมทั้งเมือง ว่าแล้ว สงครามรูปแบบใหม่ จึงกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ แต่เปลี่ยนเครื่องทรง แต่งหน้าใหม่ ตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดโดย Project of the New American Century หรือ PNAC ที่
ออกมาในปี ค.ศ. 1997 นั่นเอง ผู้อำนวยการสร้าง PNAC ไม่ใช่ใครอื่น CFR จัดส่งมาให้ทั้งแก๊ง แสดงนำโดย นาย Paul Wolfowitz, นาย R James Woolsey, นาย Donald Rumsfeld และนาย Robert Zoellick เป็นต้น เป้าหมายของ PNAC คือ เพื่อให้อเมริกาครองโลก (promote American global leadership) จะครองโลกได้ ก็ต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่ง อเมริกาเริ่มจัดรูปแบบกองทัพ ฐานทัพ และสร้างอาวุธใหม่ ๆ ขึ้น แค่นั้นยังดูไม่เอาจริงพอ ในปี ค.ศ. 2000 PNAC ออกรายงานมาอีกชื่อ Rebuilding Americas Defenses : Strategies, Forces and Resources for a New Century
เห็นหัวข้อรายงานก็พอจะเดาทิศทาง การเดินหมากของอเมริกาในศตวรรษใหม่ได้
ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดย PNAC ดังกล่าว เหยื่อที่ถูกเลือกให้ทดลองทฤษฎีใหม่ คือ Saddam Hussein สงครามอีรัคเกิดขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง 2011 ความเสียหายมีมาก เมื่อเทียบกับผลที่ได้มา ก้อนอิฐปาใส่มากกว่าดอกไม้ ยุทธศาสตร์ ตาม PNAC เน้นทางการทหาร
มากกว่าการฑูต เหยี่ยวขยับปีกมากไปหน่อย จึงมีความคิดที่จะเอานกพิราบมาใช้แทน แต่ขอโทษ เป็นนกพิราบที่ติดกรงเล็บเหยี่ยว แถมไม่ใช่เล็บธรรมดา ในเล็บยังใส่ยาพิษไว้อีก
ทฤษฎีนกพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าเราจะจำกันได้ เรื่องอิหร่าน ตั้งแต่อังกฤษจับมือกับอเมริกา ปลดนาย Mossadegh ในปี ค.ศ. 1953 โทษฐานที่รู้ทันไม่ยอมถูกฝรั่งต้มต่อ และในค.ศ. 1997 นกพิราบสายพันธ์เดิมก็ถูกนำมาใช้ในการปลดกลางอากาศ Shah โทษฐาน
เล่นผิดบท และเอา Ayatollah Khomeini มาปกครองอิหร่าน ท่านผู้อ่านนิทานมายากลยุทธ มาแล้ว โปรดอย่าลืม อิหร่าน Model ทั้ง 2 รายการ เป็น Model ที่น่าสนใจ และมีนัยลึกซึ้ง โปรดอ่านทบทวน และน่าจะศึกษาเพิ่มเติมด้วย เผื่อจะเข้าใจหัวคิดและจิตใจอันแสนร้าย ของนักล่ามากขึ้น วันไหนเขานึกจะเล่น Model อิหร่านกับสมันน้อย จะได้รู้ตัว และต่อต้าน หรือต่อสู้ถูกทาง
นกพิราบติดกรงเหยี่ยว ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการ ที่ CIA มักเรียก วิธีการอื่น ส่วนมากเป็นการปฏิบัติการ สำหรับการล้มล้าง ระบอบหรือรัฐบาล ผู้นำประเทศ ผู้บริหารประเทศ ที่อเมริกาเห็นว่าไม่เป็นมิตร หรือไม่เป็นประโยชน์ ไม่สมประโยชน์ หรือขัดใจ ขวางทางทำมาหากินหรือตรงข้ามกับแนวคิดของอเมริกา ปฏิบัติการนี้ก็จะถูกนำมาใช้ เพื่อเอาหมากตัวใหม่หรือไพ่ใบใหม่ มาเล่นแทน โดยไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพของอเมริกาให้เปลืองแรง เปลืองเงิน ก็แค่นั้น
แต่พอเป็นศตวรรษใหม่ New Century แล้ว จะใช้ CIA เล่นโดด ๆ มันก็เหมือนไม่มีงบมาเติมเงินนั้นแหละ (ฮา !) ก็ต้องสร้างงานกันหน่อย เมื่อเห็นว่าการยกทัพจับศึกอย่างที่ทำในอิรัค มันไม่เข้าท่า ถูกด่ามากกว่าถูกสรรเสริฐ เขาก็เปลี่ยนวิชามารใหม่ อย่างว่า การตั้งสถาบันต่าง ๆ จึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด (แหม ! กว่าจะโยงถึง ICG ต้องไปวิ่งอ้อมถึงสนามหลวง) สถาบันพวกนี้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพ แต่ปูทางไว้ เพื่อให้กองทัพเข้ามาได้ง่ายขึ้น
ตอนที่ 2
อย่าลืมเป้าหมายของนักล่า สำหรับศตวรรษใหม่ คือ Eurasia, ไทยแลนด์ของสมันน้อย แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่สถานที่ตั้งอยู่ในภูมิประเทศเหมาะเจาะ แถมยังมีทรัพยากรเหลืออื้อ โดยพวกสมันน้อยไม่มีปัญญา หรือไม่รู้จักดูแลเก็บไว้ให้ลูกหลานใช้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้นักล่าน้ำลายหก เวลาเอ่ยชื่อสมันน้อยหรือ มันน่าหม่ำออกยังงั้น อย่า อย่าเข้าใจผิดว่าพูดถึงนางสาวแสนโง่ คนนั้น คนละเรื่องกันครับ !
นักล่าได้พยายามหาทาง เจาะเข้ามาดินแดนของสมันน้อย หลังจากทอดทิ้งไปหลังสงครามเวียตนาม มาเข้าทาง เมื่อหมาไน เห็นผิดเป็นชอบ วิ่งเข้าไปซบกลุ่มนักล่า นึกว่าเขาจะช่วยให้ตนกลับเข้าสู่อำนาจ แน่นอนนักล่าโอบอุ้มไว้ เอาไว้ใช้เป็นหมาก เข้าสู่อาหารจานใหญ่กว่า ที่นักล่าจะกินโดยไม่มีหมาไนมาขอแบ่ง ขบวนการ มันซับซ้อน จดจำไว้ นักล่าไม่เคยคิด หรือวางแผนแบบจอแบนมิติเดียว และไม่เคยเล่นไพ่ใบเดียว หรือหมากตัวเดียว
นักล่าโอบอุ้มหมาไน ขบวนการโลกล้อมประเทศ หมาไนต้องการหรือ จัดให้ (โดยหมาไนต้องจ่ายเงินก้อนโต ฉลาดสมคำลือ) นึกว่าเพื่อประโยชน์โดด ๆ ของหมาไนหรือ คิดให้ดี ! เมื่อถึงเวลาอันควร ปฏิบัติการฝูงผึ้ง swarming ก็เกิดขึ้น
ปฏิบัติการฝูงผึ้งออกแบบมา เพื่อให้องค์กรดอกเห็ดทำงาน องค์กรพวกนี้ หน้าฉากเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร (NGO) แต่แท้จริงแล้ว องค์กรเหล่านี้เกือบทั้งหมด ถูกตั้งขึ้นและได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ทรงอิทธิพล CFR หรือบุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
เช่น George Soros หรือบรรดาบรรษัทข้ามชาติที่เป็นเครือข่ายของ CFR ทั้งสิ้น องค์กรดอกเห็ดที่มาเดินกันพล่านแถวบ้านเราที่ออกมาล่อ ให้ฝูงผึ้งปั่นป่วนเช่น !
- National Endowment for Democracy (NED)
- The International Republican Institute (IRI)
- National Democratic Institute (NDI)
- Gene Sharp Albert Einstein Institute (AEI)
- International Center on Nonviolent Conflict (ICNC)
- Freedom House
- International Crisis Group (ICG)
เป็นต้น
ทฤษฎีฝูงผึ้ง (swarming) เป็นทฤษฎีที่ Rand Corporation ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นมันสมอง (Think Tank) ของฝ่ายกองทัพอเมริกัน คิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2000 อันที่จริงทฤษฎีนี้ คิดขึ้นมาเพื่อวางรูปแบบการรบ การจัดตั้งกองกำลัง และวางแผนโจมตีหรือรับมือข้าศึก แต่ต่อมาได้มีการนำมาใช้ในด้านปฏิบัติการทางสังคม และโลกของ social media
swarming มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ Arab Spring ก่อตัวได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง เขาทำกันอย่างไร
เขาใช้วิธีการของทำงานของฝูงผึ้งเป็นรูปแบบ โดยการสร้างขบวนการนำทางความคิดขึ้นมาก่อน (หัวเชื้อ) หลังจากนั้นขบวนการทางสื่อจะช่วยโหม ประโคม แล้วความไม่สงบก็เกิดขึ้น
ขั้นตอนดูเหมือนง่าย ๆ แต่การจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ต้องใช้ศักยภาพและเวลา ในการสร้างกลุ่มคนให้ไปตามทิศทางที่ต้องการ ดังนั้นการนำแสดงคงไม่พ้น นักการเมือง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว และนักสื่อสารมวลชน
เมื่อการทำงานภายใต้ทฤษฏี ล่อฝูงผึ้ง ไปในทิศทางที่ต้องการแล้ว ขบวนการทำให้ ผึ้งแตกรัง ก็ตามมา องค์กร เช่น Gene Sharp Albert Einstein Institute, Open Society Foundation พวกนี้จะมีส่วนสำคัญในการทำให้ผึ้งแตกรัง
Gene Sharp เป็นผู้ที่น่าสนใจศึกษา เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Albert Einstein Institute เป็นผู้ชำนาญด้านภูมิศาสตร์การเมือง ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้รับรางวัลโนเบล ด้านสันติภาพ ถึง 3 ครั้ง (มาอีกแล้ว พวกรางวัลโนเบล !) เขาเขียนหนังสือเรื่อง วิธีก่อการปฏิวัติ How to start a Revolution หนังสือเล่มนี้ อ้างกันว่าเหมือนเป็นคัมภีร์ของการปฏิวัติรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ ในกลุ่มพวก Arab Spring จะพกติดตัวกันเลย ปี ค.ศ. 2011 มีคนเอาเรื่องของเขาไปทำหนังสารคดีชื่อ How to Start a Revolution เป็นหนังสารคดีที่ได้รางวัล เขาเล่าว่าเหตุการณ์ประท้วงของผู้ต้องการประชาธิปไตยในพม่า ก็เป็นการ ช่วยเหลือ ของกลุ่มเขา รวมทั้งเหตุการณ์ในประเทศไทย ธิเบต Latvia Lithonia Estonia Belarus และSerbia ก็ฝีมือพวกเขาทั้งนั้น นาย Gene Sharp จะเป็นผู้คิดแผน ส่วนผู้ปฏิบัติการมือขวาของเขา ชื่อนาย Peter Ackerman ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 2002 ได้ก่อตั้ง International Center for Non Violent Conflict (ICNC) และ ICNC นี้เอง เป็นผู้ให้การฝึกอบรมแก่ activist ชาวอียิปต์และตูนีเซีย
เขาเล่าในหนังสือ How to Start a Revolution ว่า พวกคุณ นึกหรือว่า Arab Spring มันจะเกิดขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนั้น มันได้มีการออกแบบ วางแผน และอบรมกันล่วงหน้า 2 ปี ก่อนหน้าเหตุการณ์แล้ว.. เกือบลืมบอกไป นาย Peter Ackerman นั้นเป็น CFR ครับ
ตอนที่ 3
กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans
จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 - 2009
จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !)
ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ
คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น
- การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ
- การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 - 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008)
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !)
แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ
(มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร
ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว !
ตอนที่ 4
สำหรับเหตุการณ์ขับไล่รัฐบาลโจรร้าย ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2556 ถึงปัจจุบัน ICG มีรายงานออกมา 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ออกมาประท้วงรัฐบาล ใส่ข้อมูลแนวเดียวกับสื่อหัวสี ข้อมูลฟอกย้อมจนขี้เกียจเขียนถึง แค่อ่านก็ออกอาการตึงมือขึ้นมาแล้ว แต่ ICG ยังไม่มีคำวิจารณ์หรือความเห็นเสนอ
- ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานระบุว่าวิกฤติทางการเมืองเข้มข้นขึ้น เมื่อฝ่ายประท้วงเรื่องไม่รับกม.นิรโทษกรรม เปลี่ยนเป็นเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และขู่ว่าจะล้มการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ และมีแผนจะยึดกรุงเทพฯ และขับไล่ระบอบทักษิณแบบขุดรากถอนโคน
และตั้งสภาประชาชน 400 คน นายสุเทพอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์แกนนำขู่ว่าจะ shut down กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014
ฝ่ายกองทัพไม่ปฏิเสธว่าจะไม่มีการปฏิวัติ แต่ ICG ยังคงไม่มีความเห็นเสนอ
- ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014 ใช้หัวข้อการรายงานว่า Conflict Alert รายงานว่า การประท้วงทำท่าจะก่อให้เกิดความรุนแรง และโอกาสที่จะมีการเจรจาอย่างสันติแทบจะไม่มีเลย และผู้ประท้วงมีแนวโน้ม จะสนับสนุนให้มีการรัฐประหารโดยกองทัพ การประท้วงัไม่ให้มีการเลือกตั้ง ทำให้เห็นชัดถึงทิศทางการเมืองของประเทศไทยว่า จะเป็นแบบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบ หรือเป็นการบริหารโดยสถาบันที่มีอำนาจอย่างเคย ๆ เช่น สถาบันกษัตริย์ และกองทัพ
รายงานส่วนอื่น ถ้าไม่บอกว่าเป็นรายงานของ ICG ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่า อ่านรายงานของสำนักนายกฯ (เอ้ะ ชักสงสัยใครมันเขียนให้ใครกันแน่ ! ?)
ที่น่าสนใจเป้าหมายของรายงาน ไม่ได้พุ่งไปที่ฝ่ายประท้วงรัฐบาลอย่างเดียว แต่พ่วงเอากองทัพเข้าไปด้วยว่า ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนเป็นการออกแบบให้เกิดการรัฐประหาร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่มี กองทัพได้ทำการรัฐประหารมาแล้ว 18 ครั้ง ตั้งแต่ ค.ศ. 1932 ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ และใช้กำลังอาวุธกับกลุ่มที่ออกมาแสดงความนิยมประชาธิปไตย เมื่อ ค.ศ. 1973, 1992 และ 2010 แต่ไม่เคยสักครั้งเดียว ที่จะออกมาแทรกแซงเพื่อช่วยรัฐบาลของทักษิณ!
ICG ตบท้ายรายงานว่า ไม่มีหนทางใดที่จะนำไปสู่ความสันติ ถ้าเส้นทางนั้นไม่เคารพเสียข้างมากของผู้ลงคะแนน พร้อมกับให้คำแนะนำว่า
- ประชาธิปัตย์ ควรจะกลับไปร่วมในขบวนการเลือกตั้ง
- กองทัพ ต้องพยายามดูแลเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ ตามวิถีประชาธิปไตย และสนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้ง ทั้ง 2
- ประเทศไทย จะต้องถึงจุดที่พิจารณาให้ชัดเจนว่า จะบริหารประเทศอย่างไร ซึ่งจำเป็นต้องมีการหารือในระดับชาติ ไม่ใช่เป็นความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเลือกตั้ง
(ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่าระหว่างรัฐบาลกับ ICG ใครมันสอนให้ใครพูดข้อความข้างต้นเพราะมันเหมือนกันจัง)
ICG ยังสำทับอีกว่า ถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงความรุนแรง การหารือกันในระดับชาติถึงทางออกจากข้อขัดแย้ง ก็พอมีให้เห็นอย่างจาง ๆ แต่ว่าสำหรับกรุงเทพ ทางเลือกอื่นไม่ได้มีมากนัก ! (เขียนแบบนี้มันมีความหมายพิลึกนะ)
ขณะนี้เขียนบทความนี้ ยังไม่รู้ว่า ICG จะทำงานได้ตามราคาคุยของนาย Evans แค่ไหน แต่อย่างน้อย พอมองเห็นว่า การทำงานของ ICG แผนก R&D ของนักล่า ได้ผลระดับหนึ่ง ในเรื่องต่อไปนี้
- รัฐบาลภายใต้การนำของโจรร้าย และน้องสาวแสนโง่ เดินตามคำแนะนำของแผนก R&D ของนักล่า อย่างเคร่งครัด แต่ผลสำเร็จเกิดแค่ไหน คงต้องดูกันต่อไป
- การพยายามให้โลกเข้าข้างฝ่ายที่ ICG กำลังสนับสนุนอยู่ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเลวร้าย ไม่เป็นประชาธิปไตย ฯลฯ ขนาดไหน ได้ผลสูงและทำให้โลกตำหนิติเตียน ตั้งข้อสังเกต กับฝ่ายที่ไม่ได้เป็นตัวเล่นของ ICG จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน งงงวย กับบทบาทและเป้าหมายของตนเองกันเป็นแถว ๆ ก็นับว่าได้ผลไม่น้อยทีเดียว
ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)
นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ
ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190
ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา
เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู
- นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ
การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี "การปฏิบัติการอื่น" เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด
- หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย)
- คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ
- นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู
- เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน
- แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว
ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขาอย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
25 มค 57
เรียนท่านผู้อ่านนิทาน
ผมได้เอาลิงค์ เกี่ยวกับองค์กรและข้อมูลต่างๆ ที่ผมใช้เป็นข้อมูลบางส่วน ในการ
เขียนนิทานเรื่อง " ยุทธการฝูงผึ้ง" มาลงไว้ เผื่อท่านผู้อ่านอยากจะอ่านเอง หรือค้นคว้าต่อ โดยเฉพาะ เกี่ยวกับข้อมูลของ International Crisis Group (ICG)
ซึ่งได้ยินว่ามีผู้นำไปอ้างอิง แต่อาจจะคนละความหมายกับที่ผมเขียนใน " ยุทธการฝูงผึ้ง" นะครับ เชิญท่านผู้อ่านวิเคราะห์ตามสดวกครับ
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
26 มค 57
International Crisis Group
http://www.sourcewatch.org/index…/International_Crisis_Group
The Role of a Global NGO
http://www.gevans.org/speeches/speech471.html
Thailand Conflict Alert
http://www.crisisgroup.org/…/2…/thailand-conflict-alert.aspx
Conflict Risk Alert: Thailand
http://www.crisisgroup.org/…/conflict-risk-alert-thailand.a…
The ICNC Role in the Arab Spring
http://www.ahmedbensaada.com/index.php…
How to Start a Revolution
http://www.telegraph.co.uk/…/Gene-Sharp-How-to-Start-a-Revo…
Gene Sharp
http://en.wikipedia.org/wiki/Gene_Sharp
ที่มาของข้อมูล นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น