โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
"เชื้อ.. หลอน"
นายโอบามา ผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ น่าจะเป็นผู้ได้รับรางวัลสันติภาพ ที่กำลังทำสถิติสร้างสงคราม ได้อย่างที่ยากจะหาใครมาเทียบ แม้แต่พวกเหยี่ยวกระหายเลือดอย่างคาวบอย Bush และลูกกระเดือก อย่าง ดิ๊ก เชนีย์ ก็น่าสงสัยว่า จะถูกแซง ทิ้งห่างไปเสียแล้ว
หลังจากรับรางวัลมาหมาดๆ ในปี คศ. 2009 นายโอบามา ก็ประกาศสั่งเพิ่มทหารอีก 3 หมื่นนาย ส่งตรงไปอาฟกานิสถาน ซึ่งพังทะลายใกล้เป็นเศษอิฐเต็มทีแล้ว แต่นักล่าใบตองแห้ง บอกเราน่าจะไปบดขยี้ต่อ ให้เศษอิฐมันเหลือขนาดเท่าเศษกรวด หลังจากน้ัน ก็ส่งกองกำลังไปเก็บกวาด กัดดาฟี่ที่ลิเบีย อย่างเกลี้ยงเกลาไม่ให้มีอะไรเหลือ กวาดที่ลิเบียยังไม่ทันเสร็จดี สมุนยังไม่ได้กลับบ้านอาบน้ำล้างคราบคาวเลือด พวกเขาก็ถูกสั่งให้เดินหน้าไปถล่ม รัฐบาลนายอัสสาดต่อที่ซีเรีย
นี่ยังไม่ได้นับ รายการส่งนางเหยี่ยวนูแลนด์ ไปยูเครน เพื่อยั่วยวนคุณพี่ปูติน ตามแผนที่นักล่าใบตองแห้ง จะได้หาเรื่องคว่ำบาตรคุณพี่ปูตินได้สมใจ เพราะหมั่นไส้ที่คุณพี่ปูของผม นอกจากจะมีน้ำมันและแก๊สมากไปหน่อยแล้ว ข่าวลือว่าจำนวนแฟนคลับ โดยเฉพาะในเมืองไทยนี่พุ่งกระฉูด ต่างกับนายโอบามา ซึ่งดูเหมือนจะตกต่ำลงไปทุกวัน จนหน้าดำออกเขียว ตั้งแต่มีการชม้ายชายตากับนางมารร้าย
นี่ละน้า ไม่รู้จักฤทธิ์เล่ห์เสน่หาของนางมารร้าย เขาว่าบางคนที่เคยโดนเล่ห์นี้มาช่วงใหญ่เมื่อก่อนนู้น ตอนนี้ฤทธิ์ยังไม่คลายเลย
ยังไม่หมดครับรายการบ้าเลือดของนักล่าใบตองแห้ง ไม่รู้ว่าโดนพวกที่ปรึกษาต้มเอา หรือโดนลูกน้องแต่งเรื่องเสนอ มันถึงได้พล่านไม่เลิก คราวนี้สั่งรวมพล คนถูกหลอน เร็วพวกเรา มาช่วยกันถล่มหน่อ ISIS ให้มันเหี้ยน เล่นเอาลูกน้อง งง นายๆ นั่นมันพวกเรากันเองนะนาย เออ! เล่นแบบนี้ไปก่อน ยังคิดบทใหม่ไม่ออก ถูกทวงหนี้ว่ะ ฮาจริง
แต่ไอ้ที่เล่ามาทั้งหมดข้างต้น มันยังไม่ได้เสี้ยวของความเสี่ยว ที่นายโอบามา ประกาศจะส่งทหาร 3 พันนาย ไปสู้รบกับไวรัส อีโบลา!
คนจัดฉากเขียนบท ถ้าจะเรียกมาจากโรงถ่ายถูกๆแถวฮอลลีวู้ด มันถึงได้ออกแนวหนังฮิตวิดีโอปลอม
"โลกกำลังเผชิญหน้ากับการคุกคาม และจำเป็นต้องมีการตอบโต้ระดับโลก" ว่าเข้านั่น" มันเป็นการระบาดของโรคร้าย ที่ไม่ใช่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงระดับภูมิภาคเท่าน้ัน แต่มันมีโอกาสที่จะคุกคามความมั่นคงของโลกด้วย"
ถ้าจะให้ดี ระหว่างอ่าน โปรดทำหน้าเครียด และตาลอย ออกเหล่หน่อยๆ จะได้อารมณ์ เหมือนนายโอบามา มาพูดอยู่ต่อหน้า
" ถ้าประเทศพวกนี้เอาไม่อยู่ ถ้าระบบเศรษฐกิจของพวกเขาล่ม ถ้าพวกเขาแตกตื่น มันจะมีผลกระทบกับเราทั้งหมด อย่างสุดแสนรุนแรง แม้เราจะไม่ได้ติดเชื้อโรคร้ายนี้โดยตรงก็ตาม ....ขณะนี้.... เชื้อโรคร้ายนี่แผ่กระจายเกินกว่าจะควบคุมแล้ว..."
หลังจากทำหน้าเครียด เกริ่นนำอย่างน่าตื่นเต้น จนนักข่าวที่ไปนั่งหน้าสลอนคอยการแถลงข่าว ขนหัวลุกด้วยความตกใจกันถ้วนหน้าแล้ว ประธานาธิบดีของสุดยอดพี่เบิ้มของโลก ก็แถลงต่อไปว่า ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด ของสหรัฐอเมริกา นักล่าใบตองแห้ง จะส่งกำลังทหารจำนวน 3 พันนาย ไปอาฟริกาตะวันตก ซึ่งเขาเห็นว่า เป็นวีรกรรมสูงส่งที่อเมริกา จะแสดงความร่วมมือ ต่อศูนย์ควบคุมโรค Centers for Disease Control (CDC)
นักล่าใบตองแห้งไม่ได้ขยายว่าเขาจะให้ ทหาร 3 พันนายไปทำอะไร เอาไปยิงคนอาฟริกาที่ป่วยเป็นอีโบลาเหรอ นักข่าวกระซิบถามกันเอง เฮ้ยบ้าน่า จะยิงคนป่วยได้ไง งั้นเอาทหารไปทำไมล่ะ ไปยิงกะไวรัสมั้ง นักข่าวอีกคนกระแทกแบบมีอารมณ์ แน่นอนนักข่าวสับสน งุนงงจนถามต่อไม่ออก และดูเหมือนจะไม่มีใครถาม หรือชี้แจงเพิ่มเติมว่า ทหารพวกนี้ได้รับการอบรมเกี่ยวด้านสาธารณสุขมาบ้างหรือไม่ อย่างไร
ก่อนที่ชาวเราทั้งหลาย จะตื่นและเต้นตามข่าวอีโบลา ที่มีหลายเพจ หลายท่านพูดกันจนผมเครียด ไส้ขอดพันกันไปหมด บางท่านว่า นี่มันจะเป็นเรื่องจริง มากกว่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่สามอีกนะ บางท่านก็ว่า ถึงคราหายนะของโลกแน่แล้ว เราไม่มีทางเอาอีโบลาอยู่หรอก คราวนี้ ตายจริงค่อนโลก ไปยืนเข้าแถว รอฉีดวัคซีนป้องกันอีโบลา ที่เขาว่า หลายบริษัทยายักษ์ใหญ่ กำลังจะผลิตออกมาดีกว่า
ท่ามกลางความสับสนของข่าว เราน่าจะศึกษาหาข้อมูลหลายๆด้านก่อนที่จะเต้นกันให้เต็มเหนี่ยว
องค์การอนามัยโลก (WHO) โดยการแถลงข่าว ของผู้อำนวยการ คือ นาง Margaret Chan เมื่อวันที่ 13 กันยายน คศ. 2014 บอกว่า การขยายตัวของอีโบลาในอาฟริกาตะวันตก เป็นไปในอัตราสูงเกินการควบคุม
" ใน 3 ประเทศ ที่มีคนติดเชื้อมากสูงสุด คือ Guinea, Liberia และ Sierra Leone จำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นเกินกว่าที่เราจะรับมือได้" นางChan บอกว่าเกือบครึ่งหนึ่งของคนทำงาน จำนวน 301 คน ที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ก็เสียชีวิตไปด้วยและ มีคนจำนวน 2,400 คน จากผู้ป่วย จำนวน 4,784 คน ในอาฟริกา เสียชีวิตเพราะเชื้ออีโบลา
สำหรับ นางChan และทีมงาน มีหลายสื่อบอกว่า มักจะมีความคลุมเคลือของตัวเลขและสถิติ ที่พวกเขาแจ้งเสมอ
ไม่รู้ว่าจำกันได้ไหม (หรือบางคนอาจไม่รู้เรื่องเลยก็ได้ เพราะกำลังติดละครน้ำเน่าอะไรสักเรื่อง) ว่า นางChan นี่ก็คือ Dr Margaret Chan (ชาวฮ่องกง สัญชาติอังกฤษ) ของ WHO แห่งเจนีวา ที่เมื่อปี คศ 2009 ทำให้โลกตื่นและเต้น เพราะแนะนำให้ผู้คนไปฉีดวัคซีนป้องกันหวัดหมู swine flu โดยประกาศว่า อาการน้ำมูกไหล ไอ จาม และเจ็บคอ อาจเป็นอาการของ swine flu ซึ่งเป็นโรคระบาดแรงถึงตาย
แน่นอน อาการแบบนี้ ซึ่งเป็นกันเกือบทุกคนเวลาตากแดด ตากฝน หรือแก่อย่างผม พักผ่อนน้อยไปหน่อย ก็ออกอาการแบบนี้แหละ ตอนนี้ก็กำลังมีอาการนี้อยู่! ผลก็ทำให้คนตื่นวิ่งไปฉีดยาวัคซีนป้องกัน เสียเงินให้บริษัทยาตามแผน ปรากฏว่ามีข่าวรั่วออกมาว่า วัคซีนนั่นยังไม่มีการตรวจสอบ แล้วก็มีคนยื่นฟ้อง คุณนาย Chan, WHO, บริษัทยา และใครต่อใคร อีกมากมายบัญชีชื่อยาวเหยียดเป็นจำเลย เดี๋ยวจะเอาลิงค์มาลงให้อ่านแก้เหงากัน
เขาว่าผลงานของคุณนาย Chan ซึ่งทำให้ WHO ให้คำจำกัดความของ swine flu ใหม่ เป็นการฉ้อฉล จะตั้งใจหรือเพราะโง่จัด ไม่รู้ได้ แต่พยานหลักฐานของฝ่ายผู้ฟ้อง เขาว่าไม่ใช่เรื่องโง่ของคุณนาย แต่เป็นการให้ประโยชน์กับบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ขายยาของอเมริกา กับยุโรปแทน อืม...
แล้วคราวอีโบลานี้ล่ะ เมื่อเร็วๆนี้ มีบทความในหนังสือพิมพ์ Washington Post บอกว่า 69% ของผู้ป่วยอีโบลาทั้งหมดใน Liberia ที่ WHOลงทะเบียนไว้ ยังไม่มีการยืนยันการตรวจสอบเกี่ยวกับผลเลือด เอาละสิ!
Liberia เป็นใจกลางของบริเวณที่อีโบลาระบาดในอาฟริกาตะวันตก ที่ WHO อ้างว่า มีจำนวนคนตาย จำนวน 1,224 คน ซึ่งเป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของคนที่ถูกอ้างว่าเป็นอีโบลา และ ครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ป่วยอีโบลา (2,046) ทั้งหมด อยู่ใน Liberia
ขณะเดียวกัน หน่วยงาน US FDA บอกว่าการตรวจสอบทางแล็บของหน่วยงาน เพื่อยืนยันเขื้ออีโบลา ยังมีข้อบกพร่อง ซึ่งทำให้ FDA ห้ามไม่ให้ใครนำผลตรวจสอบไปใช้อ้างอิง อ้าว! แปลว่า ตัวเลขอีก 31% ที่ ของผู้ป่วยอีโบลาที่อ้างกัน อาจเป็นตัวเลขที่ใช้การไม่ได้ หรือเป็นตัวเลขเท็จ
สรุปคือ ไม่มีความชัดเจนว่า คนตายจำนวน 1,224 ที่Liberia ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ตายเพราะอะไรกันแน่ อย่างน้อยก็น่าจะรับรู้เป็นข้อมูลหนึ่งว่า
Liberia เป็นหนึ่งในประเทศที่จนที่สุด และผจญสงครามในภูมิภาคมากที่สุด
สงครามชิงเพชร และการฆ่ากันระหว่างเผ่าพันธ์ ก็มีส่วนทำให้ประชาชน อยู่ใน
สภาพที่ทรุดโทรมและขาดอาหาร
รายงานอย่างเป็นทางการของ WHO เกี่ยวกับอีโบลา ซึ่ง WHO ต้ังชื่อใหม่ว่า EVD บอกว่า "EVD เกิดขึ้นครั้งแรก ที่หมู่บ้านที่อยู่ห่างผู้คนในอาฟริกากลาง ใกล้กับป่าดิบชื้น" แต่สำหรับครั้งนี้ เกิดขึ้น ในอาฟริกาตะวันตก ซึ่งกระจายไปทั้งบริเวณในเมือง และชนบท เดิมคาดว่าเกิดขึ้นจากค้างคาวกินผลไม้ พันธ์ Pteropodidae นำอีโบลา แพร่มาที่คน โดยการสัมผัสทางเลือด ทางสิ่งที่ขับถ่ายจากอวัยวะ หรือร่างกาย ของสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่นชิมแพนซี กอริลลา ค้างค้าวพันธ์กินผลไม้ ลิง ละมั่งป่า เม่น ที่ป่วยหรือตายในบริเวณป่าดิบชื้น
แต่เมื่อ เดือนกันยายน นี้ WHO แจงในเอกสารทางการของตัวว่า " มันเป็นการยากที่จะแยก เขื้อ EVD ออกมาจาก เชื้อ มาเลเรีย ไทฟอยด์ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ" เวรละซี!
การประกาศเช่นนี้ของ WHO ทำให้ผู้คนยิ่งงุนงง มันอะไรกันแน่ ถ้าอาการมันใกล้เคียงกันมาก จนแยกเกือบไม่ออก แถม แล๊ปยังมีข้อบกพร่องในการตรวจ ตกลงเราควรตกใจ หรือยังไม่ต้องตกใจ หรือควรตกใจ แต่ยังไม่ต้องแตกตื่น แล้วถ้ามันยังไม่ชัดเจนขนาดนี้ ตกลงนายโอบามาจะยกทัพ 3,000 คน ไปรบกับอะไรกันแน่?
มีรายงานว่า นอกอ่าวของ Liberia และตะวันออกอาฟริกา ส่วนที่เรียกว่า อีโบลาโซน มีรายงานสำรวจยืนยันว่า อุดมไปด้วยน้ำมันและแก๊ส ที่ยังไม่ได้มีการขุด รายงานนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องค้างคาวเลยนะ !?
เรื่องน้ำมันในตะวันตกของอาฟริกา โดยเฉพาะที่ Gulf of Guinea กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับคู่ชิง ฝ่ายหนึ่ง คือ จีน ซึ่งกำลังร่อนไปทั่วเพื่อหาแหล่งน้ำมันสำหรับการใช้ในอนาคตของตัว กับอีกฝ่ายหนึ่ง แน่นอน
จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก อเมริกา นักล่าใบตองแห้ง ผู้ซึ่งมีนโยบายทางยุทธศาสตร์ สืบทอดกันมาตลอดว่า " If you control the oil, you control the entire nations".
ปี คศ. 2008 คาวบอย Bush ได้ตั้งหน่วยงานทางทหาร US military
Africa Command หรือ AFRICOM เพื่อเอาไว้ขวางการเข้ามามีอำนาจ
ทางเศรษฐกิจของจีน ที่กำลังแผ่ขยายมาทางอาฟริกา ส่วนที่อุดมไปด้วยน้ำมัน
รัฐบาลโอบามาและเพนตากอน ก็มาสานนโยบายนี้ต่อ น้ำมันอาฟริกาตะวันตก ยังรอคนเข้ามาขุด จากการศึกษาของ US Department of Energy ระบุว่า ผลผลิตน้ำมันในอาฟริกา ระหว่าง คศ.2002 ถึง คศ.2025 จะเพิ่มขึ้นถึง 91% โดยเฉพาะ จากบริเวณที่อ้างว่าอีโบลากำลังแพร่กระจายนั่นแหละ
จีนเริ่มเข้าไปเดินเล่นในอาฟริกา ตั้งแต่ ปี คศ. 2000 มีทั้งบริษัทก่อสร้าง บริษัทค้าขาย และบริษัทน้ำมัน พากันยกทีมอยู่ในอาฟริกาเต็มไปหมด ประมาณว่ามีคนจีน ที่เป็นนักธุรกิจ และใช้แรงงาน อยู่ในอาฟริกาประมาณ 2 ล้านคน และหลาย ปีที่ผ่านมา การแข่งขันเรื่องน้ำมันระหว่างอเมริกากับจีน เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะที่ Angola, Sudan และ Guinea รายหลังเป็นเป้าหมายที่นายโอบามา กำลังจะส่งทหาร 3,000 นายไปสู้รบกับกองกำลังอีโบลา
ก็พอเข้าใจได้ว่า เรื่องอีโบลานี่มันน่านำมาใช้เป็นอาวุธอย่างหนึ่ง เพื่อไล่จีน ออกจากอาฟริกาตะวันตก แต่งวดหน้า โปรดหามือเขียนบทที่มันเจ๋งกว่านี่หน่อยได้ไหมครับ รวยฉิบหาย พิมพ์แบงค์เองก็ได้อยู่แล้ว ลงทุนหน่อยน่า อายพวกอาเฮียเขาบ้าง จะไล่เขาก็ให้มันสมกับเป็นชาติมหาอำนาจหน่อย ไม่งั้นก็ได้แค่ตำแหน่ง นักล่าใบตองแห้งเท่าน้ันแหละ
แล้วไล่จีน ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งอาฟริกา ปี คศ. 2012 จีนค้าขายกับอาฟริกา ประมาณ เกือบ 200 พันล้านเหรียญ ในขณะที่ตัวเลขค้าขายอเมริกา/อาฟริกา แค่ครึ่งหนึ่งของจีน คิดดีแล้วหรือ นักล่าใบตองแห้ง
จีนไป เศรษฐกิจในอาฟริกาก็มีหวังฟุบ คนอาฟริกากลับไปท้องแห้งไส้กิ่วอย่างเดิม นักล่าใบตองแห้ง คงพร้อมจะรับมือ มีทั้ง หน่อไอซิส บานเต็มตะวันออกกลาง ยังไม่พอ นี่คงอยากได้อาฟริกันทิวลิป บานเต็มอาฟริกาด้วย สงสัยจะได้เห็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่รุ่งแน่ แต่เป็นรุ่งริ่งนะคร้าบ ฮา
แล้วก็ อย่าลืมเชียว ปลูก ISIS มากับมือ ตอนนี้ มันยังกลายพันธ์ แตกใบอ่อนเป็นบ้องกัญชาไปแล้ว แล้วนี่คิดสร้างอีโบลา ไม่กลัวใครเขาเอาเข้ามาหลอนในบ้านตัวเองบ้างหรือ คราวนี้ได้มีโอกาส เป็นหนูทดลองใช้วัคซีนกันทั้งกรุงวอชิงตันเป็นแน่....
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
21 ตค. 2557
---------------------------------------------------------------------
ลิงค์อ้างอิง
http://www.brookings.edu/…/8-facts-about-china-investment-i…
http://www.helpfreetheearth.com/news15_Flu.html
http://truth11.com/…/journalist-files-charges-against-who-…/
http://edition.cnn.com/2014/09/16/health/obama-ebola/
ที่มาของข้อมูล
https://www.facebook.com/688258957869254/photos/a.712149392146877.1073741828.688258957869254/925945384100609/?type=3