วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประวัติหลวงพ่อพุธ ฐานิโย

พระราชสังวรญาณ(หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

“พระอริยเจ้าผู้ชำนาญทั้งปริยัติและปฏิบัติ”

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอริยเจ้าศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ท่านกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ ๔ ขวบ เมื่ออายุ ๑๑ ขวบ ท่านเคยกราบท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ในวัยเด็กเมื่อป่วยไข้ไม่สบาย จิตจะเกิดแสงสว่าง นิมิตเห็นก้อนศิลากลิ้งมาจากทิศทั้ง ๔ บดขยี้ร่างกาย เป็นมรณสติกระตุ้นเตือนปัญญาและจิตวิญญาณอยู่เสมอ ท่านจึงมีมโนปณิธานตั้งแต่วัยเด็กว่า “จะบวชตลอดชีวิต” ท่านเป็นผู้มีปฏิปทางดงาม หนักแน่นในความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ มีปัญญาดี สามารถท่องพระปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ท่านเป็นผู้ชำนาญทั้งปริยัติและปฏิบัติ เป็นที่ยอมรับทั้งฝ่ายคามวาสีและอรัญญวาสี เทศนาธรรมของท่านประกอบไปด้วยโวหารที่ฟังเข้าใจง่ายเป็นที่ซาบซึ้งถึงใจแก่ผู้ที่ได้ฟัง ได้รับการยกย่องจากพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริว่า “เป็นผู้สามารถเทศน์เรียงลำดับสมาธิได้ละเอียดลออดี” พระอาจารย์เจี๊ยะ จุนฺโท ออกปากชมท่านว่า “ท่านเจ้าคุณพุธมีความอ่อนน้อมถ่อมตัวมาก เขียนหนังสือด้านการปฏิบัติได้ดี ถูกต้องทุกขั้นตอน เก่งกว่าพระที่มียศตำแหน่งเป็นสมเด็จเสียอีก เราชอบอ่านหนังสือที่ท่านเจ้าคุณพุธเขียน”

ท่านเป็นพระเถระที่อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอในโอกาสอันควรท่านมักเที่ยวไปคารวะและสนทนาธรรมกับพระมหาเถระผู้ทรงธรรมเป็นปราชญ์ทางศาสนา เช่น ท่านพ่อลี ธมฺมธโร หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ หลวงปู่เทสก์ เทสฺรงฺสี หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท เป็นต้น ท่านเคยดำรงตำแหน่งทางคณะสงฆ์หลายตำแหน่ง เช่น เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้น ท่านเป็นผู้มิเคยหยุดบำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติ พระศาสนาและสังคมท่านมีสหธรรมิกคือพระอาจารย์วัน อุตฺตโม พระอาจารย์มานิตย์ สุรปญฺโญ ท่านรับเป็นองค์บรรยายธรรมและอบรมสมาธิภาวนาให้แก่ศาสนิกชนอย่างสม่ำเสมอ นับเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์แก่พระศาสนาและประชาชนอย่างยิ่ง เป็นผู้ยินดีเอาใจใส่ในการอบรมสั่งสอนธรรมแก่พระภิกษุ สามเณร ตลอดถึงสาธุชนผู้มาถึงสำนักด้วยความเมตตา เป็นผู้ชี้นำในธรรมปฏิบัติ ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติสำรวมตนในพระธรรมวินัยซึ่งเป็นแบบอย่างอันดีแก่ศิษย์มาโดยตลอด ควรแก่การเคารพเทิดทูนยิ่ง

ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๔ ที่บ้านหนองโดน อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี หลวงพ่อพุธท่านเล่าประวัติว่า “ท่านเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุ ๔ ขวบ ท่านเคยทำกรรมพรากชีวิตสัตว์ไว้ จึงต้องเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็ก”

ปีพุทธศักราช ๒๔๗๙ เมื่ออายุ ๑๕ ปี ได้บรรพชา เป็นสามเณร ที่วัดอินทสุวรรณ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมี พระครูพิบูลย์ธรรมขันธ์ เป็นพระปัพพชาจารย์ หลังบรรพชาแล้วได้ติดตาม พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส) ธุดงค์ไปยังจังหวัดอุบลฯ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์พร สุมโน พระอาจารย์พรได้นำท่านไปฝากเป็นศิษย์ของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้บรรพชาเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุต ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระศาสนาดิลก (เสน ชิตเสโน) เป็นพระปัพพชาจารย์

ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาไปฝากเรียนพระปริยัติธรรมกับท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ท่านเรียนจบนักธรรมเอก และเปรียญธรรม ๔ ประโยค ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๘๕ ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร โดยมี พระปัญญาพิศาลเถร (หนู) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น มนฺตาสโย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ปีพุทธศักราช ๒๔๘๗ – ๒๔๘๙ ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดบูรพา อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ป่วยเป็นวัณโรคอย่างหนัก นอนไม่ได้ถึง ๗ วัน ๗ คืน ใกล้จะตาย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้สอนให้ท่านพิจารณาอริยสัจว่า “ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ทุกข์มันปรากฏแก่เธอทุกลมหายใจ ให้กำหนดสติรู้สิ่งที่มันอยู่ในกายใจ เวลานี้ปอดของเธอเป็นวัณโรค มันเป็นจุดเกิดของทุกข์ จิตของเธอไปยึดติดอยู่ที่ปอดเพราะเธอป่วยที่ปอด แต่ความทุกข์มันเกิดที่จิต ความเจ็บปวดเกิดที่กาย ฉะนั้นให้กูสิ่งที่มันมีอยู่ในปัจจุบัน อย่าไปไขว่คว้าอะไร” ท่านปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้ปีเศษ จิตเกิดมรณนิมิตเห็นตัวเองนอนตายแล้วแสดงอาการต่างๆ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป เป็นต้น กายหายเหลือแต่จิตเพียงดวงเดียวสว่างไสวอยู่เป็นที่อัศจรรย์ จากนั้นมาวัณโรคที่ว่าร้ายไม่มียารักษาได้ในสมัยนั้นได้หายเป็นปลิดทิ้ง

ปีพุทธศักราช ๒๕๑๓ ท่านได้รับนิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา และอยู่จำพรรษาเรื่อยมาจนถึงวาระสุดท้าย

ปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นิมนต์ท่านไปที่พระราชวังไกลกังวล ทั้งสองพระองค์ได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อพุธเป็นเวลานาน

ท่านมรณภาพเข้าสู่แดนธรรมอันสงบ ณ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ เวลา ๐๗.๑๕ น. สิริอายุได้ ๗๘ ปี ๓ เดือน ๗ วัน ๕๗ พรรษา