วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

จิกโก๋ปากซอย ตอน กำเนิดจิกโก๋

เรื่องจิกโก๋ปากซอย
ตอนที่1 กำเนิดจิกโก๋
ตอนที่1/1
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมบ้านเมืองเราถึงเละขนาดนี้ ทั้ง เศรษฐกิจ การเมือง
การศึกษา และสังคม
เรารู้จักบ้านเมืองของเรา แบบมักง่าย ผ่านมุมมอง และความคิดของสื่อ ทั้งสื่อไทย และสื่อเทศ
สื่อส่วนใหญ่ ให้ข้อมูลข่าวสาร แบบฟอกย้อม จะโดยตั้งใจเพราะมีใบสั่ง หรือเพราะสมรรถนะต่ำถึงต่ำมาก แทบทั้งนั้น
ข้อมูลอีกหลายส่วน ก็มาจากนักวิชาการ ที่ไม่ต่างกับสื่อ ถ้าไม่ขายตัว ก็ อธิบายแบบท่องจำ จอแคบจอแบนไม่มีมิติ มองมุมเดียว เพราะมันง่ายดี แล้วเราจะได้ความรู้ ความเข้าใจแบบไหนกัน นี่ยังไม่นับข้อมูลที่เกิดจาก การตอแหลของนักการเมือง และบรรดาข้าราชการ ที่ทำหน้าที่ขี้ข้านักการเมือง ซึ่งขอใช้คำว่า บัดซบ จึงจะตรงกับพฤติกรรม
เมื่อเราไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง ก็ไม่มีความเข้าใจ แล้วจะหาทางออก จะแก้ปัญหาได้อย่างไร ยิ่งแก้ก็เลยยิ่งเละเหมือนลิงแก้แห
ทำไม เราไม่มาทำความเข้าใจ ทำความรู้จักปัญหาของบ้านเมืองอย่างจริงจังก่อน ด้วยการศึกษาขวยขวายด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่อาศัยฟังแต่จากสื่อจอแคบ คำโกหกนักการเมือง หรือนักวิชาการประเภทมีความรู้ เกิน ๆ ขาด ๆ
จะเข้าใจปัจจุบัน ก็ต้องรู้จักอดีต หรือประวัติศาสตร์ก่อน ไม่งั้นจะรู้ได้ไง ว่าต้นไม้ต้นไหนออกลูกเป็นพิษ แล้วก็อย่าทำตัวเป็นม้าแข่ง มองเห็นแต่ลู่วิ่งข้างหน้า หัดมองรอบตัว รู้จักเพื่อนบ้าน รู้จักโลกบ้าง ไม่ใช่จะมีแต่ เธอ ฉัน ลูกเรา และน้ำเน่าในทีวีเท่านั้น

ตอนที่1/2
ก่อนอื่นควรรู้จักโลกกว้างเสียก่อน ประเทศไทยไม่ใช่ตั้งอยู่โดด ๆ ประเทศเดียวนะ มีเพื่อนบ้านร่วมทวีป ร่วมโลกเยอะแยะ จะอยู่บ้านให้สบายใจต้องรู้จักว่าใครเป็นใครในซอย มีจิกโก๋ยืนเบ่งอยู่ปากซอยหรือเปล่า ถ้ามี ต้องรู้ว่ามันเป็นใคร ฝีไม้ลายมือแค่ไหน ของจริง หรือ ราคาคุย
งั้นเริ่มต้นมารู้จักจิกโก๋ปากซอยซะหน่อยดีไหม รู้จักแล้ว จะได้รู้ว่าเราจะอยู่บ้านในซอยนี้อย่างไร ควรดูแลบ้านเราอย่างไร หรือ ควรจัดการอย่างไรกับจิกโก๋
และควบคู่กับการรู้จักโลกกว้าง ต้องรู้จักปรัชญาการครองโลก ไม่ว่าโดยใคร และสมัยไหน เสียก่อน จำให้แม่น ถ้าเข้าใจปรัชญานี้ การติดตามอ่านนิทานนี้ หรือ ตามความเป็นไปของโลกนี้ ประเทศนี้และทุกอย่างที่รอบตัวเรามันจะง่ายขึ้น
คาถาในการอ่านนิทานนี้ให้สนุก ต้องจำให้ได้ว่า "อำนาจ คือ ทุน" และ
"ทุน คือ อำนาจ" หรือ " ความมั่นคง นำมาซึ่ง ความมั่งคั่ง" และ
"ความมั่งคั่ง ก็นำมา ซึ่งความมั่นคง" เช่นเดียวกัน จำให้แม่น!

ตอนที่1/3
สงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเพราะอะไร ประวัติศาสตร์ที่เขาเขียนให้เราเรียน สมัยเป็นนักเรียน เขาก็เขียนให้เราเข้าใจไปว่า มันเป็นเรื่องของการแผ่อำนาจของประเทศผู้รุกราน และประเทศผู้ถูกรุกรานก็จำต้องสู้ หรือเข้าสู่สงคราม เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศตน แต่แท้จริงแล้วเป็นเช่นนั้นหรือ กลับไปดูคาถาข้างต้นอีก 10 เที่ยว แล้วจะเข้าใจประวัติศาสตร์ ในมุมมองใหม่
สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1934) จบเอาปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) รวมเวลา 6 ปี ตลอดเวลาการสู้รบ ใช้ทวีปยุโรปและเอเซียเป็นสนามประลองกำลัง ดังนั้นเสร็จสงคราม ฝ่ายผู้แพ้สงครามเช่น เยอรมันและญี่ปุ่นนั้น ถูกน๊อคคาสนามบอบช้ำ ฉ.ห ตามประสาผู้แพ้ ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ยุโรป รัสเซีย และแม้แต่จีน ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ยับ แต่ถึงกับเยิน ดูไม่จืด ยืนพิงเชือกเกือบนับ 10 เหมือนกัน มีแต่สหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่โดนแค่สอยคาง เรือรบล่มไม่กี่ลำ ที Pearl Harbor ฮาวาย ส่วนทวีปอเมริกาปลอดภัย ไม่มีฟกไม่มีช้ำ แค่นี้ทำเป็นยัวะ ถือโอกาสประกาศสงครามกับญี่ปุ่น เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร (โอกาสทองมาแล้ว) เมื่อชนะสงครามอเมริกาจึงสถาปนาตนเองเป็นจิกโก๋คุมซอย เป็นพี่เบิ้มดูแลโลกทั้งใบ มันเขาล่ะ (จิกโก๋ปากซอย!)

ตอนที่1/4
จากการทำสงครามโลก เศรษฐกิจของแต่ละประเทศก็ตกต่ำล่มจม ความแตกต่างทางสังคมเห็นชัดขึ้น เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนชัดเจน ไม่ต้องเอาแว่นมาส่อง ระบอบคอมมิวนิสต์จึงเริ่มก่อตัวขึ้น แถวรัสเซียและยุโรปตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947)
อเมริกาในฐานะพี่เบิ้มจึงกำหนดยุทธศาสตร์ปิดล้อม (Containment) ขึ้นมาและประกาศเป็นนโยบาย เรียกว่า Truman Doctrine โดยประธานาธิบดี Harry S Truman (เคยดูหนังประวัติของแกไหม ดื้อและเหี้ยม !) เป้าหมายของยุทธศสาตร์นี้ หลักใหญ่มี 2 เรื่อง คือสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับอเมริกาและพวก โดยกันไม่ให้สหภาพโซเวียตเสนอหน้าเข้ามาสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก เห็นธาตุแท้พี่เบิ้มหรือยัง ร่วมรบกันมาดี ๆ พอถึงเวลาไม่เป็นประชาธิปไตยตามที่ต้องการก็เหม็นหน้า อย่ามาเสนอหน้านะ เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเขาติดโรคหมด
Truman Doctrine นี้ อเมริกาจะใช้คนเดียวก็กลัวเหงา เลยจับประเทศแถวยุโรปมาเข้าร่วมโดย จัดตั้งเป็นองค์กร NATO ขึ้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 28 ประเทศ กลุ่มประเทศที่ก่อตั้งและ/หรือเป็นประเทศหลักมี อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ไอซแลนด์ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ กรีซ ตุรกี และ เยอรมัน อเมริกาใช้ NATO เป็นขนมล่อยุโรปให้ผูกติดอยู่กับอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้ เริ่มเห็นฝีมือการแบ่งขนม แบ่งค่ายของอเมริกาหรือยัง
สูตรยอดนิยมของอเมริกา ที่ใช้มาตลอดคือ ล่อให้เหยื่อมารวมตัวกันก่อนจะได้ดูแลง่าย
โดยการสนับสนุนให้มีการรวมตัวของประชาชาติในเรื่องต่าง ๆ แต่อีกด้านอเมริกาก็จะสร้างเรื่อง โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้การรวมตัวนั้นมีปัญหา และแตกแยกกันเอง แข่งขันกันเอง ทะเลาะกันเอง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มบทบาทของพี่เบิ้ม ให้เป็นที่พึ่งพา
ขึ้นเรื่อย ๆ (ต้นตำรับ value added! หรือจะเรียกให้ชัด คือสร้างภาพ)
ลองสังเกตดู

ตอนที่1/5
พร้อมกับการอ้างตัวเป็นพี่เบิ้ม อเมริกาก็เริ่มทำตัวเป็นนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ แทนนักล่ารุ่นเก่าที่กำลังนอนเลียแผล
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นักล่าอาณานิคมตัวใหญ่แชมป์เก่า คือ อังกฤษ กร่างถึงขนาดประกาศว่า ดวงอาทิตย์ ไม่มีวันตกที่จักรภพอังกฤษ ตามมาติดๆคือ ฝรั่งเศส คู่แค้นของไทย กะจะขม้ำไทยมาตลอด วางแผนมาต้ังแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ แต่ที่อุกอาจสามานย์ ทำให้ไทยเจ็บช้ำจนกรมหลวงชุมพรฯ ต้องสักพระองค์เตือนความจำไว้
ก็ในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เหตุการณ์ รศ 112 หวังว่ายังคงจำกันได้นะ หรือรู้จักแต่ ม112
นักล่า ที่มาเงียบๆ คอยเสียบ คอยเสี้ยม แล้วหยิบชิ้นปลามัน คือ ฮอลันดา แต่นักล่า รุ่นเก๋าจริง ๆ ต้องยกให้สเปญและโปรตุเกศ แผนลึก อดทน และใจเย็น
นักล่ายุคใหม่ไม่ต้องการครอบครองดินแดน แบบนักล่ารุ่นเก่า แต่ต้องการกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ของประเทศที่อุดมทรัพยากร แต่ ด้อยปัญญา ไม่ทันเหลี่ยมนักล่า ทรัพยากรน้ำมัน และ แร่ธาตุสาระพัด ของหลายประเทศที่ยังไม่พัฒนา โดยเฉพาะแถบอาเซีย และตะวันออกกลางยังอุดมสมบูรณ์อยู่ ในขณะที่แถวยุโรปร่อยหรอ ส่วนอเมริกานั้นยังมีอยู่แยะ แต่งุบงิบแอบเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้
อย่าเข้าใจผิดว่าการล่าอาณานิคมยุคใหม่ จะใช้วิธียกทัพจับศึก ยึดดืนแดนกันอย่างเมื่อก่อน
รุ่นใหม่ ยุคใหม่นี่้เขาทำกันเนียน
เครื่องมือในการล่าอาณานิคมยุคใหม่เขาใช้ตามคาถายอดนิยม อำนาจ คือ ทุน และทุน คือ อำนาจ
รบชนะมาหมาด ๆ อำนาจล้นฟ้าเป็นพี่เบิ้ม จะปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปยังไง ก็ต้องรีบยื่นมือยาวๆ อ้อมไปทั้งโลก โดยใช้วิธีการทั้งหลอก ทั้งล่อ ด้วยการนำเสนอระบอบทุนนิยมเสรี ระบบทุนนิยมโลก เพื่อให้มันล้อมโลกได้ โดยไร้พรมแดน คำว่าโลกาภิวัฒน์ จึงเกิดขึ้น ชอบใช้กันนัก รู้ให้ทันแล้วกันว่าโลกาภิวัฒน์ คืออะไร และเพื่อใคร

ตอนที่1/6
ทุนนิยมเสรี มันเดินไปเองได้ที่ไหน ก็ต้องหาเครื่องมือให้ทุนมันเดินไปทั่วโลกได้ง่าย ๆ เนียน ๆ ดังนั้น หน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ (UN) ธนาคารโลก (World Bank) IMF WTO ฯลฯ และเหล่าบรรษัทข้ามชาติ ด้านการเงิน การค้า การอุตสาหกรรม ต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น หน่วยงานต่าง ๆ ดังกล่าว มีพี่เบิ้มและสหายเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้กำกับ รู้กันไว้ด้วย
สหประชาชาติ (UN) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) จากแนวคิดของพี่เบิ้มผู้ชนะสงคราม คือ อเมริกาและอังกฤษ มีคณะมนตรีถาวร 5 ประเทศ (ไม่บอกก็น่าจะเดาออกนะ ว่าใครบ้าง
ก็ผู้ชนะสงคราม นั่นแหละ) คือ อเมริกา อังกฤษ ผรั่งเศส รัฐเซีย และจีน
ผู้ควักกระเป๋าจ่ายเงินสนันสนุนการดำเนินงานของ UN ก็คือสมาชิก แล้วพอเดาออกไหมว่าใครจ่ายเงิน สนับสนุน UN สูงสุด ไม่น่าตอบผิดนะ ก็พี่เบิ้มอเมริกานั่นแหละ ไม่งั้นจะเป็นจิกโก๋ปากซอยได้ยังไงกัน
ธนาคารโลก (World Bank) ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับ IMF (International Monentary Fund) ในปี พ.ศ. 2487 (ค.ศ. 1944) แน่นอนจากแนวคิดของพี่เบิ้ม อเมริกาและอังกฤษ สำนักงานใหญ่ของทั้ง 2 องค์กร ตั้งอยู่ที่วอชิงตัน ดี ซี ของพี่เบิ้ม เงินสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากประเทศสมาชิก แต่ผู้ที่ควักกระเป๋าหนักที่สุดก็เหมือนเดิมคือพี่เบิ้ม อเมริกา คิดกันต่อแล้วกัน พี่เบิ้มใจดี หรือพี่เบิ้มกำลังท่องคาถา อำนาจ คือ ทุน ทุน คือ อำนาจ 555 ไปเปิดอากู (Google) ดูแล้วกัน ประธานธนาคารโลกตั้งกะก่อต้ังมา จนถึงปัจจุบัน เป็นคนสัญชาติอเมริกันทั้งหมด อืม เริ่ม เห็นภาพลาง ๆ บ้างหรือยัง คนอ่านนิทานทั้งหลาย
อันที่จริงระบบทุนนิยมมีมานานแล้ว แต่การขยายตัวทำได้ช้า เพราะต้องพึ่งการคมนาคมและการสื่อสาร ดังนั้นทุนนิยมยุคโบราณจึงเดินทางโดยเรือ รถไฟ ม้า อูฐ และ นกพิราบ (ฮา!) ก็ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องบิน โทรเลข โทรศัพท์ มือถือ ดาวเทียม Swift 3จี 4จี Wifi ฯลฯ นี่นะ
ทุนนิยมโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขตดินแดน แต่ขึ้นกับศูนย์อำนาจในแต่ละช่วงเวลาน้ัน เช่น ฮอลันดาเป็นศูนย์กลางของทุนนิยม สมัย ศตวรรษที่ 17 ก็เล่นล่าต้ังกะอินโดนีเซียยันไปถึงอาฟริกา ต่อมาศูนย์อำนาจก็อยู่ที่อังกฤษ เจ้าของคำกร่างพระอาทิตย์ไม่ตกดินที่อังกฤษ
จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่เบิ้มอเมริกาถึงได้ขึ้นแท่นเป็น นัมเบอร์วัน ของศูนย์อำนาจ ไชโย! ตาไอแล้ว


ตอนที่1/7
อเมริกาคิดเรื่องระบบทุนนิยม และกลไก ที่จะทำให้ตนเป็นศูนย์อำนาจ มาต้ังแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่โอกาส ยังไม่อำนวย หวยมาตกก็ตอนศูนย์อำนาจเก่าๆ ฉ ห หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่แหละ อเมริกาถึงเสนอแผนจัดโครงสร้างระเบียบโลกเสียใหม่ (New World Order) โดยเน้นที่พลังทุนนิยม ก็เป็นเศรษฐีนี่ มีปัญหาไหม ไม่นิยมทุนแล้วจะให้นิยมอะไร อย่าลืม คาถา ทุน คือ อำนาจ อำนาจคือทุน ง่ายๆ ตรงไปตรงมา
ไม่ว่าจะเรียก New World Order หรือ Pax Americana ทั้งหลายทั้งปวง มันก็คือแผนการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยใช้ระบบทุนนิยม นำหน้านั่นเอง เดี๋ยวก็มาถึงทุนนิยมสามานย์น่า ใจเย็นไว้โยม
ทุนจะมี ก็ต้องค้าขาย เงินไม่ได้ตกลงมาจากฟ้าเหมือนฝนนะ จะค้าขายก็ต้องมีสินค้า สินค้ามาจากไหน มาจากการผลิต การผลิตต้องมีอะไรเป็นปัจจัย ต้องมีวัตถุดิบซีจ้ะ วัตถุดิบมาจากไหน ก็มาจากทรัพยากร ทรัพยากรมาจากไหน ก็ปล้น หรือต้มเขาเอา
ซีวุ้ย แหม กว่าจะโยงมาถึง อาตมาเกือบเป็นลม
ดังนั้นนักสำรวจทรัพย์ของผู้อื่น ในคราบผู้เชี่ยวชาญ จึงเดินกันว่อน วิ่งกันพล่าน อุ๋ย ประเทศนี้ไอ จองนะ ไอจะไปดูเอง เขาน่าสงสารนะ เห็นมีแต่ช้างเดินเต็มป่า วัวควายเต็มทุ่งนา
ปี ค.ศ. 1946 สงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกหมาด ๆ อเมริกาส่งผู้เชี่ยวชาญ มาทำการสำรวจสถานะประเทศไทยและสรุปว่า ไทยแลนด์ เป็นประเทศที่ยังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และยังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจดียิ่งอย่างเหลือเชื่อ วรรคเมื่อกี้ ข้าพเจ้าเติมเอง เพราะอ่านแล้วเหลือเชื่อ นี่ขนาดบริหารกันไปแดกกันไป ยังแกร่งอย่างนี้เลยนะ ถ้าต้ังอกต้ังใจบริหาร แม่อีหนูเอ๊ย ลูกหลานเราคงเรียนฟรี ถนนคงปูด้วยทองคำ
อย่างที่ อจ.ศึกฤทธิ์ว่าไว้จริง ๆ นะ
รายงานฉบับดังกล่าว ทำให้อเมริกาน้ำลายเยิ้มเมื่อมองประเทศไทย ไม่ต่างกับที่โอบามา
มองนางปูเอ๋อจิงเมื่อตอนมาสำรวจประเทศไทย เมื่อปลายปี พ.ศ. 2555 นั่นแหละ
แล้วทำอย่างไร อเมริกาจะได้กินอาหารจานอร่อยชื่อ ไทยแลนด์ แดนสวรรค์ สยามเมืองยิ้ม
ไม่ยาก อเมริกาใหญ่ผงาดมาขนาดนี้ ไม่ใช่ทำเป็นแค่ขี้ม้าไล่ยิงอินเดียนแดงออกจากถิ่นเก่าของเขานะวุ้ย



แหล่งที่มาของข้อมูล....นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น
https://www.facebook.com/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%99-688258957869254/?fref=ts