วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

จิกโก๋ปากซอย ตอน ฝากลูกน้องคุมซอย

นิทานเรื่องจริง เรื่องจิ๊กโกปากซอย
ตอนที่ 11 ฝากลูกน้องคุมซอย
ตอน 11/1

ท่านผู้อ่านนิทาน อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว คงพอจะรู้จักจิกโก๋ นักล่ารุ่นใหม่ หมายเลข 1 กันบ้างแล้ว
และคิดว่าจิกโก๋เขาจะจบแค่เวียตนามหรือ เปล่าหรอก หมดธุระเรื่องเวียตนาม เขาได้อย่างที่ต้องการ ตามใบสั่งของนายทุนผู้ค้าอาวุธ ซึ่งกุมคอหอยจิกโก๋อีกที แล้วเขาก็เปลี่ยนเข็มทิศ
มองไปทางไหนหนอ อ้อ ทางไหนก็ได้ที่มีทรัพยากรของคนอื่น ที่เขาอยากได้ไง
น้ำมัน น้ำมันไง มาถึงแล้ว จิกโก๋มันแสนรู้
เมื่อทุนนิยมเข้าไปที่ไหน อุตสาหกรรมก็เกิด เมื่อมีอุตสาหกรรม ก็ต้องอาศัยพลังงาน
ทั้งไฟฟ้า และ น้ำมัน แหม! แล้วใครล่ะ ที่มีน้ำมันมีมาก ก็พวกคุณอาทั้งหลาย แถวทะเลทรายไงล่ะ
ดังนั้นแผนของนักล่า ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเวียตนาม จึงเพ่นพ่าน ถือไม้สามง่ามเล็งหาน้ำมัน นู่นไปนู่นเลย ไปหาประวัติศาสตร์อิหร่านแตก พระเจ้าชาห์หนี ซาอุดิอารเบียจับมือกับอเมริกา สงคราม Gulf War ระหว่างคูเวต อิรัก อเมริกา จนถึง สงครามอิรัก ขอไม่เล่ารายละเอียด เพราะวันนี้จะเขียนที่เกี่ยวกับไทยแลนด์จัง ๆ ก่อนนะ แต่ถ้าไม่บอกเดี๋ยวท่านผู้อ่านนิยายก็จะงงว่าแล้วไง มันหายไปจากบ้านเรา แล้วมันไปไหน ไปทำอะไร
ก็อย่างว่า จิกโก๋เขาไม่ได้หายไปไหนหรอก มันก็ไปทำมาหากิน ขุดเผือกขุดมันขุดน้ำมันของคนอื่นเขาละซิ เราก็นึกว่าเขาไม่ยุ่งกะเราแล้ว เปล่าหร๊อก มันแค่เปลี่ยนแนว เหมือนหนังฮอลลีวู้ดเปลี่ยนฉากน่ะ ไม่ต้องตื่นเต้น บทเขาเขียนไว้ต่อเนื่อง ตั้งกะปีมะโว้ อีกร้อยปีก็เล่นไม่จบ เว้นแต่มันจะจบกันไปคนละข้างก่อน
ระหว่างที่จิกโก๋ ย้ายซอยไปขุดเผือกขุดน้ำมันที่อื่น บ้านเราก็อ้างว่าเป็นช่วงเวลาพัฒนาประชาธิปไตย ที่ จิกโก๋หว่านเมล็ดพันธ์ไว้ ทุกคนก็ร่ำร้องหาแต่ประชาธิปไตย (ตอนนี้ยังหาอยู่เลย ลูกพระยาพหล อยู่ไหมจ๊ะ ป่านนี้แก่หง่อมหรือลาขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็ไม่รู้)
บ้านเมืองเราก็ล้มลุก หกขะเมนตีลังกาตั้งแต่ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 จนถึง 6 ตุลา พ.ศ. 2519
ถึงจิกโก๋จะไปขุดน้ำมัน เขาก็ใช่ว่าจะลืมสมันน้อยนะ จิกโก๋ชอบทหาร ก็ของมันคุ้น
ของมันเคย รัฐบาลพลเรือน เจอแต่ละคน จิ๊กโก๋ก็มึนเหมือนกัน อย่างอาจารย์สัญญาน่ะ
เหมือนเป็นพ่อพระ จะสั่งให้พระไปทิ้งระเบิดใคร มันง่ายนักเหรอ แล้วอาจารย์คึกฤทธิ์ล่ะ
อีด่า Ugly American ใส่ แถม ยืนคำขาด กำหนดวันที่พี่เบิ้มต้องถอนทหาร
อเมริกันให้หมดจากบ้านเราด้วย ส่วนคุณหอยธานินทร์น้ัน เกินกว่าจะบรรยาย
ว่าแล้วการเมืองไทยก็กลับมาอยู่ในความครอบงำของทหารเหมือนเดิม แปลกดีไหมคิดสิ เป็นไปตามธรรมชาติ หรือมีใบสั่ง อย่าให้ต้องเขียนรายละเอียด เหมือนสมัยคุณป๋าสฤษดิ์ คุณน้าหนอมเลยนะ เอาย่อๆว่าไม่มีอะไรลอดสายตาพญาอินทรีย์หรอก เพียงแต่เขาจะกางกรงเล็บขยุมเราโดยตรง หรือใช้
"วิธีอื่น" เท่านั้นเอง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เราก็เลยได้ทหารกลับมาบริหารประเทศอีก
พล.อ. เกรียงศักดิ์ ทำแกงเนื้อใส่บรั่นดี ตั้งแต่ปี 2520-2523
พล.อ. ป๋า เจ้าของวลีเด็ด เราเป็น Jocky ไม่ใช่เจ้าของคอก ทำหน้าที่ Jocky ตั้งแต่ปี 2523-2531
พล.อ. น้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ ปี 2531-2534

ตอน 11/2
ช่วงทหารมีอำนาจบริหารบ้านเมือง ยุคหลัง 14 ตุลา 2516 ต่างกับ ช่วงก่อน 14 ตุลา 2516 อย่างน่าสนใจ
อย่างที่เล่ามาตอนแรก ก่อน 14 ตุลา 2516 เรามีจอมพลคนใส่หมวกแล้วชาติเจริญ คุณป๋ารักชาติ และเหล่านักวิ่งผลัด การพัฒนาประเทศช่วงนั้น ถูกกำกับโดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติมาดเข้ม เดินประกบหน้าประกบหลังไทยแลนด์ เอาผ้าห่มวัฒนธรรมอเมริกัน ห่อไทยแลนด์เสียมิดชิด จนไทยแลนด์ลืมไปเลย ว่าไทยแท้เป็นยังไง จำได้แต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกัน
แต่รัฐบาลคุณทหารช่วงหลัง 14 ตุลา 2516 ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติถูกอัญเชิญออกไปแยะ จากปัจจัยภายในประเทศเราและประเทศเขา แต่พี่เบิ้มเขาก็ไม่ปล่อยเกียร์ว่าง เขาควบคุมด้วยวิธีแยบยล ให้เราใช้เหล่าข้าราชการที่เรียกว่า technocrat มาช่วยคุณทหาร บริหารประเทศ
Technocrat เหล่านี้เป็นใคร
ก็เป็นต้นกล้าที่คุณพ่อหว่านเอาไว้
เขาเหล่านั้นเป็นนักเรียนนอก เติบโตมาภายใต้ระบบการศึกษาและแนวคิดของฝรั่ง เรียนแบบถ่ายสำเนาอัดก๊อปบี้ออกมาเลย คุณพ่อฝรั่งว่าขาวก็ขาวด้วย คุณพ่อว่าดำก็ดำด้วย นี่สี่เหลี่ยม นี่กลม โอ้ย! ท่องจำกันได้หมด แล้วก็กลับเอาคำท่องจำมาใช้สอนต่อ หรือมาใช้ทำงานในบ้านเรา
ดังนั้นไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ สมันน้อยไม่ไปไหน คุณพ่อฝรั่งไม่อยู่ คุณพ่อก็ให้พวก good boy technocrat เด็กในคาถา มาทำหน้าที่ดูแลแทน
นี่ยังไง นักวิชาการ ข้าราชการ สื่อ ฯลฯ ที่ถูกฟอกย้อมเอาไว้เรียบร้อยไม่รู้ไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่มันก็เป็นของย้อมน่ะ แล้วจะมีอะไรเหลือ ไทยพันธ์แท้หายไปไหนหมด เหลือแต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกา!
แต่เรื่องทุกเรื่องมันก็มีหักมุมนะ คุณน้าชาตินี้แกใช่ย่อยที่ไหน ถึงจะเป็นทหาร แกก็ไม่ได้ฟังเทคโนแครตมากนัก แกตั้งที่ปรึกษาบ้านพิษขึ้นมาเอง พวกนี้ก็มีพิษไปอีกแบบ
ไทยแลนด์ก็เลยเหมือนหนีเสือปะจรเข้ หนีชะนีไปเจอค่าง อะไรอย่างนั้นแหละ
รัฐบาลคุณน้าชาติ เป็นตัวแปรที่สำคัญ ต้องศึกษากันให้ดีๆ
คุณน้า แกมีนโยบายล้ำเลิศ จะเปลี่ยนสนามรบ เป็นสนามค้า แกคิดโครงการ
แต่ละอัน เด็ดสะระตีทั้งนั้น จะค้าขาย มันก็ต้องมีท่าเรือมารองรับการขนส่ง นั่นมาแล้ว Eastern Sea Board จะติดต่อค้าขายกัน การสื่อสารมันก็ต้องทันสมัย จะใช้นกพิราบไปเรื่อย ๆ ไม่ไหวมั้ง คุณน้าก็ให้คิดโครงการ 3 ล้านเลขหมาย คิดเรื่องดาวเทียม! คิดโครงการขนส่ง Hopewell ระบบทางด่วน ฯลฯ คุณน้าแกช่างคิดหาตังค์จริง ๆ ต้องยอมรับ ไม่งั้นจะได้สมญารัฐบาลฟาสต์ฟูตเหรอ
โครงการต่าง ๆ เหล่านี้ มันมูลค่ามหึมา ไอ้ 3 เกลอหัวแข็งที่มัวแต่ไปวุ่น ๆ อยู่ทางอื่นของโลก ก็หันขวับจนคอเคล็ดมาดู เออ! เฮ้ย! มันกำลังจะทำอะไร สมันน้อยทำไมไม่บอกไอ นี่มันเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น ไอ้พวก good boy tecnocrat เด็ก ๆ ของเราหายไปไหนหมด ทำไม่มันไม่เตือน เขากำลังจะเข้าฮ๊อสกันหมดแล้ว

ที่มาของของมูล...นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=714562335238916&id=688258957869254