วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

จิกโก๋ปากซอย ตอน สมันน้อยลงหม้อ

นิทานเรื่องจริง เรื่องจิ๊กโก๋ปากซอย
ตอนที่ 7 สมันน้อยลงหม้อ

ตอน 7/1
ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อต้ังขึ้นในปี พ.ศ. 2502 (ค.ศ.1959)
สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!)
อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกืจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้น โดยใช้วิธี
แปลรายงานของ World Bank ทั้งฉบับ เป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรง
หัวสมองอะไร แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่บท ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่า
น้ันเอง
รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขนส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และ สร้างสนามบิน!
สังเกตดูให้ดีนะพี่น้อง สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่
แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่
กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ
แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า
สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ !
ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของWorld Bank ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ
โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ ทั้งหมด 7 แห่ง
คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย
สาธารณูปโภคที่สร้าง ก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบิน หรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภาโคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขา เรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ
สถานีเรดาร์ ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง
บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิค ฯลฯ
มีพนักงานชาวอเมริกัน1,000คน และลูกจ้างชาวไทยอีก 1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน
มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ใแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย
หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ข้าพเจ้าเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการถูกจับอย่างยิ่ง

ตอน 7/2
คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์
ล้วงกระเป๋าเขา ไปซื้อของของขวัญให้เขานะตัวเอง หลงดีใจ!
ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริง ๆ
ต้องไม่ลืมถนนมิตรภาพที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยนะ วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม
มันคล้าย ๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่น่ะนะ วันดีคืนดีก็มีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมากลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่าเอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหม
เตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกืจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำ
กองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้
พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมเข้ามาแถวนี้
ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ถึง 2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาว และกัมพูชา
ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดใม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาว และกัมพูชา
ที่น่าสนใจ การที่สหรัฐเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน สหรัฐไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายสหรัฐก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉย ๆ เอง ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบ ๆ งิบ ๆ อย่างนี้ดีกว่า ไม่มีใครรู้ เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถว ๆ
และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่าปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ
(ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู
ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น (นาย Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.!
สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่าทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อย ๆ อ่านไป

ตอนที่ 7/3

เห็นชัดหรือยัง ลองเรียบเรียงดู การสำรวจของ World Bank แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพไทย การควบคุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหม และทำเพื่ออะไร ผลประโยชน์ของใคร
อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอมมิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย
แต่ถามว่าแล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประเทศกลับหัวกลับหางหกขะเมนตีลังกา เช่นนี้
เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบ ๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่นสงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง
และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม้ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
พี่น้องที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอก เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟ้อกย้อมล่ะ
จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้า ๆ น่ะ มันน้ำ หรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลล่า์ หรือใบตอง
ที่แน่ สีทอง ๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ
ภายใต้ Pax Americana หรือ การขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา
ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่าถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ. 2505 เช่น
พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลงทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่
พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ
พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน
แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน
เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวแดง ตาตี่หัวดำ อย่าง สิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่
ถ้าอยากรู้ตัวเลข จริง ๆ ทำใจแข็ง เปิดดูรายงานของธปท. ของคุณพี่ประสาร ก็พอรู้
รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน แหม!
เรื่องนี้ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
พี่น้องอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่
ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร์ (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย)
เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง
ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไรเ มัน ก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มบีงคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกืจให้
หดและหายไปในที่สุด
ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ี้น่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกืจ ก็ยังใช้เล่นต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์
ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
ชาวประชาอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง


ที่มาของข้อมูล นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=712085768819906&id=688258957869254