วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพที่ ๔๔ พระโมคคัลลาน์ สารีบุตร อัครสาวกซ้าย-ขวามาทูลขอบรรพชาเป็นเอหิภิกขุ



ภาพที่ ๔๔
พระโมคคัลลาน์ สารีบุตร อัครสาวกซ้าย-ขวามาทูลขอบรรพชาเป็นเอหิภิกขุ




ภาพที่เห็น  คือ พระโมคคัลลาน์ สารีบุตร กำลังบวชกับพระพุทธเจ้าที่วัดเวฬุวัน กรุงราชคฤห์  
ก่อนบวช  ทั้งสองบวชเป็นปริพาชกในฐานะเป็นศิษย์สาวกของสญชัย


สญชัยเป็นศาสดาปริพาชกที่มีชื่อเสียงมากผู้หนึ่งในแคว้นมคธ    มีลูกศิษย์  และคนนับถือมาก  
โมคคัลลาน์  สารีบุตร  เคยอยู่ที่นี่เพื่อศึกษาหาความรู้ทางพ้นทุกข์   แต่ครั้นศึกษาจบแล้วเห็นว่ายังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์  จึงลาอาจารย์สญชัยออกแสวงหาความรู้ใหม่ต่อไป  แล้วจึงมาพบพระอัสสชิในเมือราชคฤห์


พระอัสสชิเป็นรูปหนึ่งในคณะพระปัญจวัคคีย์     ที่พระพุทธเจ้าทรงส่งออกไปประกาศพระศาสนา    ท่านทราบว่าเวลานั้นพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่ที่เมืองราชคฤห์   ท่านจึงเดินทางเพื่เฝ้าพระพุทธเจ้าที่นั่น   ระหว่างทางมาได้พบพระสารีบุตร   ซึ่งขณะนั้นเรียกว่า  'อุปติสสปริพาชก'   พระสารีบุตรเห็นกิริยาท่าทางพระอัสสชิน่าเลื่อมใสจึงเข้าใจสนทนาถามถึงทางปฏิบัติ  และผู้เป็นพระศาสดา    เมื่อได้ฟังก็ชอบใจ   ภายหลังจากนั้นจึงกลับมาชวนสหายคือ  โมคคัลลาน์  หรือ  'โกลิตปริพาชก'   ก็เรียกไปเฝ้า
พระพุทธเจ้า  พร้อมด้วยปริพาชกบริวารที่ติดตามมาอีก  ๒๕๐  คน


ครั้งนั้น  สารีบุตร โมคคัลลานะ  ได้พากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค  ครั้นถึงแล้วได้ซบเศียรลงที่พระบาทของผู้มีพระภาค  แล้วทูลขอบรรพชาอุปสมบทต่อพระผู้มีพระภาคว่า  ขอพวกข้าพระพุทธเจ้า 
พึงได้บรรพชา  พึงได้อุปสมบทในสำนักพระผู้มีพระภาค  พระพุทธเจ้าข้า


พระผู้มีพระภาคตรัสว่า  พวกเธอจงเป็นภิกษุมาเถิด  ดังนี้  แล้วได้ตรัสต่อไปว่า  ธรรมอันเรา
กล่าวดีแล้ว  พวกเธอจงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด  พระวาจานั้นแลได้เป็นอุปสมบทของท่านผู้มีอายุเหล่านั้น


คนทั้งหมดได้เป็นผู้ทรงบาตรจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์  ราวกะว่าพระเถระ  ๑๐๐  พรรษา


ภายหลังบวชแล้วไม่นาน    ท่านทั้งสองได้ปฏิบัติธรรมจนสำเร็จอรหันต์   ได้เป็นกำลังสำคัญ
ในการประกาศพระศาสนาช่วยพระพุทธเจ้ามากที่สุด  พระพุทธเจ้าจึงทรงตั้งท่านทั้งสองให้ดำรงตำแหน่ง
พระอัครสาวก  พระสารีบุตรเป็นพระอัครสาวกฝ่ายขวา  พระโมคคัลลาน์ฝ่ายซ้าย  ว่าอย่างสามัญ  ก็เท่ากับเป็นมือขวามมือซ้ายของพระพุทธเจ้านั่นเอง    ท่านทั้งสองนี้นิพพานก่อนพระพุทธเจ้าไม่กี่เดือน    พระสารีบุตรนิพพานด้วยโรคประจำตัว  ส่วนพระโมคคัลลาน์ถูกอันธพาลจากคนในศาสนาอื่น (เดียรถีย์)  จ้างมาฆ่า