วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพที่ ๒๓ ทรงลอยถาด ถาดจมลงไปกระทบกับถาดเดิม ๓ ใบ พญานาคก็รู้ว่า พระ พุทธเจ้าจะมาตรัสรู้




ภาพที่ ๒๓
ทรงลอยถาด ถาดจมลงไปกระทบกับถาดเดิม ๓ ใบ พญานาคก็รู้ว่า
พระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้




เมื่อนางสุชาดากลับไปบ้านแล้ว   พระมหาบุรุษเสด็จลุกขึ้นจากอาสนะ   ทรงถือถาดทองข้าว
มธุปายาส   เสด็จไปยังริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา    เสด็จลงสรงน้ำ    แล้วขึ้นมาประทับนั่งริมฝั่ง   ทรงปั้นข้าว
มธุปายาสออกเป็นปั้น  รวมได้  ๔๙  ปั้น  แล้วเสวยจนหมด  ปฐมสมโพธิว่า  'เป็นอาหารที่คุ้มไปได้  ๗  วัน
๗  หน'


เสร็จแล้วทรงลอยถาดและทรงอธิษฐานว่า  ถ้าจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า  ขอให้ถาดจงลอย
ทวนกระแสน้ำขึ้นไปไกลถึง  ๘๐  ศอก  ไปจนถึงวังน้ำวนแห่งหนึ่ง   ถาดนั้นจึงจมดิ่งหายไปจนถึงพิภพของกาฬนาคราช  กระทบกับถาดสามใบของพระพุทธเจ้าในอดีตสามพระองค์เสียงดังกริ๊ก


พระพุทธเจ้าในอดีตสามพระองค์นั้นคือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมน์  และพระกัสสปะ  พระ
มหาบุรุษกำลังจะเป็นองค์ที่  ๔


กาฬนาคราชหลับมาตั่งแต่สมัยพระพุทธเจ้าในอดีต  จะตื่นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงถาด  พอได้ยิน
ก็รู้ได้ว่าพระพุทธเจ้าองค์ใหม่เกิดในโลกแล้ว     คราวนี้ก็เหมือนกัน    เมื่อได้ยินเสียงถาดของพระมหาบุรุษก็งัวเงียขึ้นแล้วงึมงำว่า  "เมื่อวานนี้พระชินสีห์ (หมายถึงพระกัสสปพุทธเจ้า)  อุบัติในโลกพระองค์หนึ่ง  แล้วซ้ำบังเกิดอีกพระองค์หนึ่งเล่า"  ลุกขึ้นมาไหว้พระพุทธเจ้าเกิดใหม่  แล้วก็หลับต่อไปอีก


ความที่กล่าวมาถึงตอนพระมหาบุรุษทรงลอยถาด  แล้วถาดลอยทวนกระแสน้ำจนถึง  กาฬนาค
ราชได้บาดาลได้ยินเสียงถาดตกลงนั้น        ท่านพรรณาเป็นปุคคลาธิษฐานถ้าถอดความเป็ธรรมาธิษฐานก็ได้ความอย่างนี้คือ    


ถาดนั้นคือพระศาสนาของพระพุทธเจ้า  แม่น้ำคือ  โลกหรือคนในโลก   คำสั่งสอนหรือพระศาสนาของพระพุทธเจ้า  พาคนไหลทวนกระแสโลกไปสู่กระแสนิพพาน คือความพ้นทุกข์ที่ไม่มีเกิด  แก่  เจ็บ  และตาย  ส่วนกระแสโลกไหลไปสู่ความเกิด  แก่  เจ็บ  และตาย  พญานาคใต้บาดาลผู้หลับใหล  คือสัตวโลกที่หนาแน่นด้วยกิเลส    เมื่อพระพุทธเจ้าทรงอุบัติบังเกิดขึ้นมาในโลกก็รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้า  รู้แล้วก็หลับใหลไปด้วยอำนาจแห่งกิเลสต่อไปอีก