วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพที่ ๗๑ เสด็จไปกรุงกุสินารา ทรงกระหายน้ำ โปรดให้พระอานนท์ ไปตักน้ำมาถวาย



ภาพที่ ๗๑
เสด็จไปกรุงกุสินารา ทรงกระหายน้ำ โปรดให้พระอานนท์ ไปตักน้ำมาถวาย




ระหว่างทางเสด็จไปเมืองกุสินารา  ภายหลังทรงฉันสูกรมัททวะของนายจุนทะแล้ว    พระพุทธเจ้าทรงประชวรด้วยพระโรคปักขันธิกาพาธอย่างหนัก  จวนเจียนจะเสด็จนิพพาน  ณ  ที่นั้นเสีย  ก่อนกำหนด  แต่ทรงระงับอาพาธนั้นเสียได้ด้วยขันติบารมี  คือ  ความอดกลั้น


ปักขันธิกาพาธเป็นพระโรคอย่างหนึ่งซึ่งเกิดประจำพระองค์พระพุทธเจ้า    คือทรงพระบังคนถ่ายออกมาเป็นโลหิต  มีผู้สันนิษฐานกันว่าคงได้แก่  ริดสีดวงลำไส้


เพราะเหตุที่ประชวรพระโรคดังกล่าว  พระพุทธเจ้าจึงทรงลำบากพระกายมาก  แต่ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ  ไม่ทรงทุรนทุราย


เสด็จถึงระหว่างทางแห่งหนึ่ง    ซึ่งมีแม่น้ำเล็กๆ  มีน้ำไหล    พระพุทธเจ้าแวะลงข้างทาง  เข้าประทับใต้ร่มพฤกษาแห่งหนึ่ง      ตรัสบอกพระอานนท์ให้พับผ้าสังฆาฏิเป็น   ๔   ชั้นแล้วปูลาดถวาย  เสด็จนั่งเพื่อพักผ่อน  แล้วตรัสให้พระอานนท์นำบาตรไปตักน้ำในแม่น้ำ


"เราจักดื่มระงับความกระหายให้สงบ"  พระพุทธเจ้าตรัสบอกพระอานนท์


พระอานนท์กราบทูลว่าแม่น้ำตื้นเขิน  เกวียนประมาณ  ๕๐๐  เล่มของพวกพ่อค้าเกวียนเพิ่งข้ามแม่น้ำผ่านไปเมื่อสักครู่นี้    เท้าโคล้อเกวียนบดย่ำทำให้น้ำในแม่น้ำขุ่น      แล้วกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า  
"อีกไม่ไกลแต่นี้  มีแม่น้ำสายหนึ่งชื่อกุกกุฏนที  มีน้ำใส  จืดสนิท  เย็น  มีท่าน้ำสำหรับลงเป็นที่รื่นรมย์  ขอ
เชิญเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า  ไปที่แม่น้ำนั้นเถิด  พระเจ้าข้า"


พระพุทธเจ้าตรัสปฏิเสธคำทูลทัดทานของพระอานนท์ถึง ๓ ครั้ง  พระอานนท์จึงอุ้มบาตรเดินลงไปตักน้ำในแม่น้ำ  ครั้นเห็นน้ำ  พระอานนท์ก็อัศจรรย์ใจนักหนา  พลางรำพึงว่า


"ความที่พระตถาคตพุทธเจ้ามีฤทธิ์และอานุภาพใหญ่หลวงเช่นนี้เป็นที่น่าอัศจรรย์มาก  แม่น้ำนี้ขุ่นนัก  เมื่อเราเข้าไปใกล้เพื่อจะตัก  น้ำกลับใสไม่ขุ่นมัว"


ครั้นแล้วพระอานนท์ก็นำบาตรตักน้ำนั้นไปถวายพระพุทธเจ้า