วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพที่ ๗๒ ปุกกุสะบุตรแห่งมัลลกษัตริย์แวะเข้าเฝ้าถวายผ้าเนื้อ เกลี้ยงสีทอง



ภาพที่ ๗๒
ปุกกุสะบุตรแห่งมัลลกษัตริย์แวะเข้าเฝ้าถวายผ้าเนื้อ เกลี้ยงสีทอง




ในขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ภายใต้ร่มพฤกษาริมฝั่งแม่น้ำ  ซึ่งอยู่ในระหว่างทางที่จะไปยัง เมืองกุสินารานั้น  ได้มีชายผู้หนึ่งนามว่าปุกกุสะ ผู้เป็นบุตรของมัลลกษัตริย์  เดินทางมาจากเมืองกุสินาราจะไปยังเมืองปาวา  มาถึงตรงที่พระพุทธเจ้าประทับหยุดพักจึงเข้าไปพัก


พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องธรรมอันเป็นสันติ       ปุกกุสะฟังแล้วเกิดความเลื่อมใส  จึงถวายผ้าสิงคิวรรณสองผืนแด่พระพุทธเจ้า   ผ้าสิงคิวรรณ  คือผ้าเนื้อดี  ละเอียด  ประณีต  มีสีเหมือนสิงคี  'สิงคี'  แปลว่า  ทองคำ


เขากราบทูลพระพุทธเจ้าว่า  ผ้าสิงคิวรรณคู่นี้ผืนหนึ่งสำหรับห่ม  อีกผืนหนึ่งสำหรับนุ่งเป็น
ผ้าพิเศษเนื้อเกลื้อง    ตัวเขาเคยนุ่งห่มเป็นครั้งคราว    เขาได้เก็บรักษาไว้   แต่บัดนี้จะขอถวายพระพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้าทรงรับผืนหนึ่ง    อีกผืนหนึ่งทรงบอกให้ปุกกุสะนำไปถวายพระอานนท์   ชายผู้นั้นได้ทำตามพุทธประสงค์  กราบถวายอภิวาทพระบาทพระพุทธเจ้า  แล้วออกเดินทางต่อไป


หลังจากนั้น  พระอานนท์ได้นำผ้าที่ชายผู้นั้นถวายท่านเข้าไปถวายพระพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้า
ทรงนุ่งผืนหนึ่งและห่มอีกผืนหนึ่ง     พอพระพุทธเจ้าทรงนุ่งและห่มผ้าสิงคิวรรณแล้ว    ปรากฎว่าพระกาย
ของพระพุทธเจ้าฉายพระรัศมีเปล่งปลั่งและผุดผ่องผิดปกติยิ่งกว่าครั้งใดๆ  ที่พระอานนท์เคยเห็นมา   พระ
อานนท์จึงกราบทูลกับพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์มาก


พระพุทธเจ้าตรัสพระอานนท์บอกว่า  พระกายของพระองค์มีพระรัศมีเปล่งปลั่งผิดปกติ  มีอยู่สองครั้งเท่านั้น  ครั้งหนึ่งเมื่อตรัสรู้ใหม่ๆ  อีกครั้งหนึ่งคือเมื่อก่อนวันจะปรินิพพานคือวันนี้  แล้วตรัสว่า


"ดูก่อนอานนท์!  สิ้นสุดคืนวันนี้  เราจักนิพพานแล้ว  มาเดินทางต่อไปยังกุสินารากันเถิด"


พระอานนท์รับพุทธาณัติ  คือคำสั่งจากพระพุทธเจ้า  แล้วเรียนให้พระสงฆ์ทั้งปวงที่ตามเสด็จ
ให้ทราบเพื่ออกเดินทางต่อไป