วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพที่ ๕๘ พระแม่น้าทูลถวายเฝ้า โปรดให้ถวายอชิตภิกษุ ซึ่งต่อไปจะตรัสรู้



ภาพที่ ๕๘
พระแม่น้าทูลถวายเฝ้า โปรดให้ถวายอชิตภิกษุ ซึ่งต่อไปจะตรัสรู้




ตามหลักฐานที่ปรากฎอยู่ในตำราศาสนาพุทธทั่วไป    โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราชั้นอรรถกถาที่
แต่งขึ้นโดยนักเขียนรุ่นหลังพระพุทธเจ้านิพพานแล้ว     ปรากฎว่าพระพุทธเจ้าเสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์หลายครั้ง


ที่เห็นอยู่ในภาพสาธกนั้นก็เป็นตอนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์  ปฐมสมโพธิว่าเป็น
การเสด็จครั้งที่สอง   สตรีที่นั่งอยู่เบื้องพระพักตร์นั้น   คือพระนางปชาบดีโคตมี  ซึ่งมีฐานันดรศักดิ์เป็นพระน้านางของพระพุทธเจ้า  เพราะพระนางเป็นน้องสาวแม่ของพระพุทธเจ้า  นี่ว่าอย่างสามัญ   เมื่อพระนางสิริมหามายาสิ้นพระชนม์แล้ว  พระเจ้าสุทโธทนะทรงได้พระนางปชาบดีโคตมีนี้เป็นชายา


ตามท้องเรื่องว่า    พระนางปชาบดีโคตมี   ทรงดำริเมื่อคราวพระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ครั้งแรกนั้น  พระนางไม่ได้ถวายอะไรพระพุทธเจ้าเลย  คราวนี้พระนางจึงนำผ้าสาฎก  ๒ ผืน ยาว  ๑๔ ศอก  
กว้าง  ๗  ศอกเสมอกัน  ไปถวายพระพุทธเจ้า   ปฐมสมโพธิว่า   ฝ้ายนั้นมีสีเหลืองดังทอง  โดยพระนางปลูกต้นฝ้ายเอง   ฝ้ายออกดอกมาเป็นสีเหลืองหม่น   เสร็จแล้วทอเองจนสำเร็จเป็นผืน  แล้วใส่ผอบทองนำไปถวายพระพุทธเจ้า


พระพุทธเจ้าไม่ทรงรับ  พระนางเสียพระทัยจึงไปหาพระอานนท์เล่าความให้ฟัง พระอานนท์
จึงเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลให้ทรงรับ   พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงรับ   ทรงชี้บอกพระนางให้นำไปถวายพระ
สงฆ์  แต่ก็ไม่มีพระสงฆ์องค์ใดยอมรับอีก   มีอยู่องค์เดียวเท่านั้นที่นั่งอยู่หางแถวอาสน์สงฆ์สุดยอมรับ   ท่านเป็นพระบวชใหม่  นามว่า  "อชิต"  ยังเป็นพระปุถุชน  แต่ในอนาคตปฐมสมโพธิว่าอชิตภิกษุนี้   คือ   พระศรีอาริย์  ซึ่งจะเสด็จมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อโปรดโลกสืบต่อไป  


ที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงรับผ้าของพระนางปชาบดีโคตมี   เพราะทรงต้องการจะยกย่องความดี
ของพระสงฆ์สาวกให้เห็นว่า    แม้เพียงพระบวชใหม่ทรงศีลก็ควรแก่การรับของทำบุญของพุทธศาสนิกชน  
เพราะถ้าไม่ทรงทำให้เห็นอย่างนี้  ใครๆ  ก็จะถือว่าทำบุญกับพระพุทธเจ้านั้นจึงจะได้บุญ  แล้วเมื่อพระพุทธเจ้านิพพานล่วงไปแล้ว  พระสงฆ์สาวกก็จะลำบากเพราะทัศนะดังกล่าว