วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพที่ ๔๒ พระเจ้าพิมพิสารเลื่อมใส ทรงหลั่งน้ำถวายวัดเวฬุวันเป็นปฐมสังฆาราม



ภาพที่ ๔๒
พระเจ้าพิมพิสารเลื่อมใส ทรงหลั่งน้ำถวายวัดเวฬุวันเป็นปฐมสังฆาราม




เมื่อพระเจ้าพิมพิสาร  ราชาแห่งแคว้นมคธ  ได้ทรงฟังธรรมพระพุทธเจ้าจบลง   และได้ทรง
บรรลุโสดาแล้ว    ก็เสด็จลุกขึ้นอภิวาทแทบพระบาทพระพุทธเจ้า   ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกหนึ่งพันรูปเสด็จไปเสวยที่พระราชนิเวศน์ในวันรุ่งขึ้น      พระพุทธเจ้าทรงรับคำทูลอาราธนาด้วยพระอาการดุษณี


นั่นเป็นธรรมเนียมการรับนิมนต์ของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สมัยนั้น  ถ้าดุษณีหรือนิ่ง  แปล
ว่า    รับได้   ถ้ารับไม่ได้   เช่น   มีคนทูลอาราธนาว่า    ขอให้เสด็จไปรับบาตรที่บ้านของตนแห่งเดียวตลอดพรรษานี้   พระพุทธเจ้าจะตรัสว่า   "คนในโลกนี้ใครๆ   ก็อยากทำบุญกับเราทั้งนั้น   จะผูกขาดไม่ได้หรอก"  อย่างนี้แปลว่ารับนิมนต์ไม่ได้  หรือไม่รับ


รุ่งขึ้น   พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวนตาลหนุ่ม   เข้าไปในพระราชนิเวศน์ของพระเจ้าพิมพิสาร  
เจ้าพนักงานที่ได้ตระเตรียมอาหารบิณฑบาตรไว้พร้อมแล้ว      พระเจ้าพิมพิสารได้ทรงถวายอาหารแก่พระ
พุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวก


เมื่อพระพุทธเจ้าเสวยแล้ว   และพระสงฆ์ทั้งนั้นก็ฉันอิ่มกันทั่วแล้ว  พระเจ้าพิมพิสารจึงเสด็จ
เข้าไปใกล้พระพุทธเจ้า  ประทับนั่ง  ณ ที่ควรข้างหนึ่ง  แล้วทรงมีพระราชดำรัสทูลพระพุทธเจ้าว่า  ที่สวน
ตาลหนุ่มเป็นสถานที่อยู่ห่างไกลเมืองและทุรกันดารมาก  ไม่สะดวกแก่การไปมา


แล้วมีพระราชดำรัสว่าพระราชอุทยานสวนไม้ไผ่    หรือเวฬุวันของพระองค์ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่
ไกลจากตัวเมืองนัก  ไปมาสะดวก  กลางวันไม่พลุกพล่านด้วยผู้คน  กลางคืนสงบสงัด  สมควรเป็นที่ประทับอยู่ของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์


เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับด้วยพระอาการดุษณี    พระเจ้าพิมพิสารจึงทรงหลั่งน้ำจากพระเต้า
ลงบนพระหัตถ์พระพุทธเจ้า  ถวายเวฬุวนารามให้เป็นวัดพระพุทธศาสนาแห่งแรกในโลก


ปฐมสมโพธิว่า   "กาลเมื่อพระสัพพัญญูทรงรับพระเวฬุวันเป็นอาราม   ครั้งนั้นอันว่า   มหา
ปฐพีดลก็วิกลกัมปนาท  ดุจรู้ประสาทสาธุการว่า  มูลที่ตั้งพระพุทธศาสนา  หยั่งลงในพื้นพสุธา  กาลบัดนี้"