วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาพที่ ๖๘ มีพระพุทธฎีกาตรัสแก่พระอานนท์ว่า ทรงปลงอายุสังขารแล้ว อีก สามเดือนจะนิพพาน



ภาพที่ ๖๘
มีพระพุทธฎีกาตรัสแก่พระอานนท์ว่า ทรงปลงอายุสังขารแล้วอีก สามเดือนจะนิพพาน




เมื่อพระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร  คือ  ทรงประกาศกำหนดวันจะเสด็จนิพพานไว้ล่วงหน้า
ถึง  ๓  เดือน   พลันก็ยังเกิดอัศจรรย์แผ่นดินไหว  ผู้คนที่ได้ทราบข่าวต่างๆ  เกิดขนลุก   ปฐมสมโพธิว่ากลองทิพย์ก็บันลือไปในอากาศ  พระอานนท์ประสบเหตุอัศจรรย์นั้น  จึงออกจากร่มพฤกษาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วทูลถามถึงเหตุเกิดอัศจรรย์  คือแผ่นดินไหว  พระพุทธเจ้าจึงตรัสกับพระอานนท์ว่า  เหตุที่จะเกิดแผ่นดินไหวนั้นมี  ๘  อย่าง  คือ


     ๑. ลมกำเริบ
     ๒. ผู้มีฤทธิ์บันดาล
     ๓. พระโพธิสัตว์จุติจากชั้นดุสิต  มีสติสัมปชัญญะ  ลงสู่พระครรภ์พระมารดา
     ๔. พระโพธิสัตว์มีสติสัมปชัญญะ  ประสูติจากพระครรภ์พระมารดา 
     ๕. พระพุทธเจ้าตรัสรู้
     ๖. พระพุทธเจ้าตรัสปฐมเทศนา
     ๗. พระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร
     ๘. พระพุทธเจ้านิพพาน


พระพุทธเจ้าตรัสบอกพระอานนท์ว่า  ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ในวันนี้   เกิดจากพระองค์ทรง
ปลงอายุสังขาร  พอได้ฟังดังนั้น  พระอานนท์นึกได้  คือ  ได้สติตอนนี้  จึงจำได้ว่าพระพุทธเจ้าเคยตรัสบอกท่านว่า  ธรรมะ  ๔  ข้อที่เรียกว่า   อิทธิบาท  ๔  คือ    ความพอใจ  ความเพียง  ความฝักใฝ่  และความใตร่ตรอง   ถ้าผู้ใดได้บำเพ็ญปฏิบัติให้เต็มเปี่ยมแล้ว  ปรารถนาจะให้ชีวิตซึ่งถึงกำหนดดับหรือตาย  ได้มีอายุยืนยาวต่อไปอีกระยะหนึ่งก็ย่อมทำได้


พอนึกได้เช่นนี้   พระอานนท์จึงกราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า  ให้ทรงใช้อิทธิบาท  ๔  นั้นต่อพระชนมายุยืนยาวต่อไปอีก  พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธถึง ๓  ครั้ง  ตรัสว่าพระองค์เคยทรงแสดงโอภาสนิมิต  (บอกใบ้)  ให้พระอานนท์ทูลอารธนาพระองค์ให้มีพระชนมายุสืบต่อไปอีกก่อนหลายครั้ง  และหลายแห่งแล้ว    ซึ่งถ้าพระอานนท์นึกได้แล้วทูลอาราธนา    พระองค์ก็จะทรงรับคำอาราธนาเพื่อต่อพระชนมายุ
ของพระองค์ออกไปอีก    ว่าอย่างสามัญก็ว่า  พระพุทธเจ้าตรัสบอกพระอานนท์ว่า  "สายเสียแล้ว"  เพราะ
พระองค์ได้ประกาศปลงอายุสังขารว่าจะนิพพานเสียแล้ว