วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

๒๗.เรือนไฟ


       ยามเย็นในวันโกน หลังจากฉันน้ำปานะแล้ว ภิกษุสามเณรจะไปรวมกันที่เรือนไฟ เพื่ออบกายด้วยความร้อนจากไอน้ำในหม้อต้มสมุนไพร

หมอชีวกโกมารภัจจ์ (แพทย์ผู้ถวายการพยาบาลพระพุทธองค์ และพระสาวกในสมัยพุทธกาล) ได้แนะนำการอบกาย เพื่อขับเหงื่อ และของเสียที่เกิดจากการตกค้างหมักหมมของอาหารออกจากร่างกาย เพื่อช่วยระงับโรคภัยบางอย่าง

พระพุทธองค์ทรงบัญญัติพระวินัยเกี่ยวกับเรือนไฟเรียกว่า “ชันตาฆรวัตร” ดังปรากฏในหนังสือบุพพสิกขาฯ ให้ภิกษุพึงปฏิบัติข้อวัตรในเรือนไฟหลายประการ เช่น
- ทำความสะอาดเตาและบริเวณเรือนไฟ
- ไม่นั่งเบียดชิดภิกษุผู้เป็นเถระ
- ไม่กีดกันที่นั่งแก่ภิกษุหนุ่ม
- พึงมีอุตสาหะเมตตาจิตเอื้อเฟื้อบีบนวด ขัดสีตัว สรงน้ำแด่พระเถระด้วยความเคารพ
- ครั้นเสร็จกิจ ให้ทำความสะอาดเรือนไฟให้เรียบร้อย

ในเรือนไฟ ภิกษุสามเณรอาจบริหารร่างกายด้วยท่าต่าง ๆ หรือนั่งสงบนิ่งดูจิตของตนตามอัธยาศัย โดยไม่ต้องกังวลถึงกิจวัตรส่วนรวม เพราะวันโกนหยุดการประชุมทำวัตรเย็น เปิดโอกาสให้ภิกษุสามเณรได้พักผ่อนและมีเวลาส่วนตัว

หลังการอบกายจะรู้สึกเบาสบายจิตใจปลอดโปร่ง แต่หากไม่รู้ประมาณมัวเพลิดเพลินอยู่ในเรือนไฟ ปล่อยให้เหงื่อถูกขับออกมามากเกินไป รุ่งขึ้นวันใหม่อาจต้องอดอาหาร เพราะอ่อนเพลียจึงตื่นไม่ทันไปบิณฑบาต

ทุกสิ่งทุกอย่างหากปราศจากความพอดีหรือทางสายกลางแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความผิดพลาดและบกพร่องทั้งสิ้น